1,000 ปีต่อมา แม้แต่ผู้ติดตามที่อ่อนแอที่สุดของฉันก็กลายเป็นราชาปีศาจ - บทที่ 222

222 โรคสมองเสื่อมและรางวัล

พลังของการเชื่อมโยงอาณาจักรจันทรานั้นมาจาก Void Sovereign เองโดยตรง และการปิดกั้นพวกเขาจาก Black Crow Gaze ไม่ใช่สิ่งที่นายพลปีศาจคนใหม่ที่เป็นโรคสมองเสื่อมสามารถทำได้

เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ได้รับการอนุมัติและการสนับสนุนจากปรมาจารย์ Absurdity Jester

The Thousand-faced Dancer มีความคิดนี้อยู่ในใจ และไม่ได้วางแผนที่จะแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงเช่น Carnage แต่กลับพยายามพูดคุยกับอีกฝ่าย และอย่างน้อยก็ค้นหาทัศนคติของ Void Sovereign คนอื่นๆ ในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อนักเต้นพันหน้าพูด ภาวะสมองเสื่อมก็แค่หาวและเกาก้นก่อนที่จะนั่งลงในท่าที่สบายกว่าบนเกวียน มันเพิกเฉยต่อแม่ทัพปีศาจในชุดเต้นรำของมันโดยสิ้นเชิง

!!

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของนักเต้นแข็งทื่อ เนื่องจากการถูกละเลยต่อหน้ากองทหารทั้งสี่นั้นเกือบจะเป็นการดูถูกมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความไร้สาระคือชีวิตของมัน

แต่ก่อนที่มันจะโกรธ เจ้าหน้าที่ของโรคสมองเสื่อมที่กำลังเช็ดน้ำลายจากมุมปากก็พูดขึ้น

“ลอร์ดภาวะสมองเสื่อมเพิ่งบอกว่ามันกำลังถ่ายทอดชะตากรรมที่ประกาศโดยลอร์ดวาลค์ของเรา—เวลายังไม่มา ชะตากรรมของ Black Crow Gaze และ Moon Realmหายนะยังไม่เกิดขึ้น โปรดเลือกเมื่อถึงเวลา” พนักงานในชุดทักซิโด้พูดอย่างใจเย็น

โรคสมองเสื่อมหันศีรษะเล็กน้อยเพื่อมองไปที่ผู้ดูแล แม้ว่าสีหน้างุนงงจะยังคงเหมือนเดิม สำหรับคนอื่นๆ ดูเหมือนว่ามันกำลังแสดงความคิดของตัวเอง

เมื่อเห็นว่ามีคนเต็มใจที่จะตอบในที่สุด นักเต้นพันหน้าจึงถามว่า “หรืออีกนัยหนึ่ง เจ้านายของคุณวางแผนที่จะเข้าข้างฮาร์ทเลสและกลายเป็นศัตรูของเราแล้ว และคุณไม่ได้ตั้งใจจะยอมแพ้ใช่ไหม?”

“Heartless” เป็นคำที่ดูถูกเหยียดหยามสำหรับจักรพรรดิผู้แปลกประหลาดอย่าง Steelheart Widow ในอาณาจักร Moon

ผู้ดูแลหันไปหาภาวะสมองเสื่อมและขอความเห็นเกี่ยวกับคำถามของนักเต้นพันหน้า ซึ่งไม่สามารถซ่อนเจตนาฆ่าได้

ใบหน้าของภาวะสมองเสื่อมซึ่งมีการแสดงออกที่เข้าใจยากและปัญญาอ่อนนั้นสะท้อนให้เห็นในสายตาที่ชาญฉลาดและมั่นคงของผู้ดูแล หลังจากฟังอีกฝ่ายพึมพำอย่างสับสนไม่กี่วินาที ภาวะสมองเสื่อมก็พยักหน้าเล็กน้อยและกระซิบว่า “ฉันเข้าใจสิ่งที่คุณหมายถึงครับนายท่าน”

ด้วยเหตุนี้ ผู้ดูแลจึงตอบนักเต้นพันหน้าว่า “ลอร์ดภาวะสมองเสื่อมกล่าวว่าในฐานะพนักงานของโรงละครคลั่ง เราไม่เคยมีค่ายตายตัว แม้ว่าจะต้องมีสักอย่าง เราก็จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างโชคชะตาที่น่าสนใจเท่านั้น ความตั้งใจเดิมของเราคือไม่ขัดแย้งกับคุณเพราะมันดูน่าเบื่อ

“แต่ตอนนี้คุณกำลังขวางเส้นทางของเราไปสู่จุดสิ้นสุด ความขัดแย้งที่วุ่นวายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต”

คนที่พูดคือการกัดเซาะ ซึ่งเป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เกิดจากสิ่งตกค้างของสิ่งที่เน่าเสียนับไม่ถ้วน เสียงของมันราวกับเสียงแมลงวันกระพือปีก

การกัดเซาะเป็นสัญลักษณ์ของซากที่เหลืออยู่หลังจากการสิ้นสุดของทุกสิ่ง และเป็นนายพลปีศาจที่ต่อสู้กับร่างโคลนของวิลเลียมในช่วงสั้นๆ ในวันเอพริลฟูลส์

เจ้าหน้าที่ตอบกลับทันทีว่า “ไม่ เราไม่ได้ตั้งใจจะทะเลาะกันจริงๆ ลอร์ดภาวะสมองเสื่อมบอกว่ามันสามารถหลีกทางได้ แต่สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ Moonanchor ที่คุณถืออยู่จะต้องอยู่ต่อไป Black Crow Gaze ไม่ใช่สถานที่สำหรับปลดปล่อยหน้าที่ที่แท้จริงของพวกเขา และตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะปรากฏตัว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่ทัพปีศาจที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็หันกลับมาและมองไปข้างหลังพวกเขาที่สี่สหายใหญ่ที่ได้รับการปกป้องอย่างดีจากกองทหารชั้นสูงที่อยู่ตรงกลางกองทหาร

สิ่งเหล่านี้คือ Moonanchors อาวุธลับที่นายพลปีศาจวางแผนที่จะใช้เพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติแห่ง Moon Realm

ในช่วงพันปีที่ผ่านมา Moon Realm Void Sovereigns ทั้งสิบได้หล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เพื่อยึด Currere ไว้สำหรับการหลอมรวมเครื่องบิน

…

“ฉันจะถามอีกครั้งว่าทำไมฉันถึงต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”

หลังจากได้รับรายงานของเบลค วิลเลียมก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงถามว่า

โดยปกติแล้ว เบลคจะซ่อนพิกัดของ Moon Realm ของ Black Crow Gaze ไว้ แต่การปรากฏตัวของกองทัพมอนสเตอร์ทางจันทรคติขนาดใหญ่อาจหมายถึงว่าการสนทนาของ Aiur กับเขาทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงจากผู้ปกครอง Moon Realm คนอื่นๆ

เป็นไปได้ว่าอธิปไตยเหล่านี้จะมีส่วนร่วมเป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ หากเป็นกรณีนี้ สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาไม่ปลอดภัยเนื่องจากพวกเขาอยู่บนสนามหญ้าที่บ้านของ Moon Realm

Aiur ตอบคำถามที่เป็นกังวลของ William อย่างใจเย็น “เพราะเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด”

“แต่คุณบอกก่อนหน้านี้ว่านี่เป็นพิธีกรรมที่ง่ายมาก?”

“พิธีกรรมนั้นเรียบง่าย แต่คุณจะรับมือกับผลที่ตามมาได้ยากลำบากมาก” อีกฝ่ายตอบอย่างสงบ

“จะเกิดอะไรขึ้น” วิลเลียมถาม

“เมื่อราชาที่แท้จริงของ Currere ขึ้นครองบัลลังก์ นั่นหมายความว่า Currere พร้อมแล้ว”

“พร้อมอะไร”

“สงคราม” Aiur พูดอย่างเรียบง่าย

“ทำสงครามกับใคร”

“อาณาจักรพระจันทร์”

นั่นไม่ชัดเจนเหรอ?

วิลเลียมอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกไป แต่เขากลั้นไว้และเปลี่ยนคำพูด

“สงครามระหว่าง Moon Realm และ Currere เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มาโดยตลอด”

การแสดงออกที่เยือกเย็นของ Aiur เปลี่ยนไปเล็กน้อยตามคำพูดของวิลเลียม ราวกับว่าเธอประหลาดใจเล็กน้อย

แน่นอนว่าสำหรับ Steelheart Widow Aiur การประหลาดใจเล็กน้อยก็มีความหมายมาก

“คุณคิดมาตลอดว่านั่นคือสงครามเหรอ?” ไอเออร์ถาม

โดยไม่รอคำตอบ เธอกล่าวต่อว่า “จริงๆ แล้ว นอกเหนือจากสงครามเมื่อ 1,008 ปีที่แล้ว ซึ่งคุณเรียกว่าวิกฤตอาณาจักรดวงจันทร์ ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามเลย ไม่เคยมีสงครามที่แท้จริงระหว่างเคอร์เรร์กับดวงจันทร์เลย อาณาจักรอย่างที่คุณคิด”

วิลเลียมสับสนกับคำพูดของไอเออร์

“วิกฤติขอบเขตดวงจันทร์แทบไม่ถือว่าเป็นสงครามเลยหรือ?” เขาพูดซ้ำ

วิลเลียมคิดกับตัวเองว่า เอาน่า ฉันเอาชนะทั้งเกม ฉันยังประสบกับผลลัพธ์ของอาณาจักรแห่งดวงจันทร์ที่ชนะและเอาชนะ Void Sovereigns ทั้งสามในตอนจบที่แน่นอน ถ้า Moon Realm ทรงพลังอย่างที่คุณพูด มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

แต่แน่นอนว่าวิลเลียมไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกมาดัง ๆ

Aiur ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่า “ภัยพิบัติ คุณทราบเป้าหมายสูงสุดของ Moon Realm หรือไม่”

คำถามนี้ทำให้วิลเลียมนิ่งงัน

ในฐานะฝ่ายที่เป็นปรปักษ์ขั้นสุดยอดในเกม Moon Realm ไม่เคยเปิดเผยเป้าหมายที่แท้จริงของมันเลย

อาจกล่าวได้ว่าราชาแห่งเดธบลัดต้องการสร้างการสังหารเพิ่มมากขึ้น ตัวตลกไร้สาระต้องการดราม่ามากกว่านี้ หรือจักรพรรดินีกระซิบต้องการสานต่อแผนการเพิ่มเติม

แต่สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เหมือนกับตัวร้ายดั้งเดิมในงานอื่นๆ

คัมภีร์ของศาสนาคริสต์? ความวุ่นวาย? กฎเกณฑ์นิรันดร์?

ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

ในความเป็นจริง เมื่ออาณาจักรแห่งดวงจันทร์สะท้อนถึงเคอร์เรร์ มันก็จะหยุดดำรงอยู่ทันทีที่เคอร์เรเรถูกทำลายจนหมด

“แล้ว… เป้าหมายสูงสุดของมันคืออะไร?” วิลเลียมถาม

“สงครามของ The Void Sovereign ในอาณาจักรแห่งดวงจันทร์มีผลกระทบมากกว่าที่เราทำใน Currere มาก นี่เป็นเพราะเป้าหมายสูงสุดของเราคือการกำหนดผู้ชนะหนึ่งคนที่จะได้รับรางวัล Currere… หรือมากกว่า Currere ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยโดเมน Moon Realm ของพวกเขา” Aiur อธิบาย

“คุณเข้าใจไหม? Currere เป็นเพียงรางวัลสุดท้ายสำหรับเรา เมื่อใครสักคนกลายเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์องค์ที่ 8 และเป็นราชาที่แท้จริงของ Currere นั่นหมายความว่าชาว Currere ทั้งหมดจะเข้าร่วมเกมอันยิ่งใหญ่นี้และต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเขา”