ราชาศักดิ์สิทธิ์ชั่วนิรันดร์ - บทที่ 76

บทที่ 76: เริ่มการทดสอบ
ผู้แปล: Atlas Studios บรรณาธิการ: Atlas Studios

“ค่อนข้างน่าเหลือเชื่อเหรอ? นั่นเหลือเชื่อมาก!”

Xue Yi คร่ำครวญเบา ๆ “ฉันอยู่ในนิกายไม่มีตัวตนมาหกปีแล้ว และฉันเพิ่งจะถึงขอบเขตของ Spirit Fire ระดับ 2 เท่านั้น”

“เฮ้ เราอย่าพูดถึงเรื่องพวกนี้อีกต่อไป

ซู่ยี่ยกตัวเองขึ้นแล้วยักไหล่ “แต่ถ้าเฝิง ห่าวหยูประสบความสำเร็จทั้งในการสกัดน้ำอมฤตและอาวุธ และจบลงด้วยการสร้างชื่อให้กับตัวเองในการจัดอันดับระหว่างการแข่งขันนิกาย นั่นก็ถือเป็นเกียรติสำหรับนิกายของเราเช่นกันใช่ไหม”

ยิ้ม ซูซิโม่พยักหน้า

“ทุกคนกรุณาเงียบไว้!”

ทันใดนั้น ผู้ฝึกฝนการสร้างรากฐานก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าห้องโถงปรับแต่งอาวุธ และผลักมือของเขาลง ทำให้เสียงพูดคุยในห้องโถงเงียบลง

“ทุกคน โปรดมุ่งหน้าไปและเลือกวัสดุของคุณก่อนที่จะหาจุดว่างภายในห้องโถงด้วยตัวคุณเองเพื่อปรับแต่งอาวุธของคุณ การทดสอบเริ่มขึ้นแล้ว!”

สาวกทั้งหมดเริ่มแยกย้ายกันหลังจากเลือกวัสดุแล้ว ขณะที่ซู่จือโม่และซู่ยี่รอก่อนที่จะเลือกจุดที่ด้านหลังห้องโถง

เฟิง ห่าวหยู่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีหยิ่งผยองโดยเอามือไพล่หลัง ไม่มีใครกล้ายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา

ก่อนหน้านี้ เฟิง ห่าวหยู ได้ถามไปแล้วและพบว่าไม่มีศิษย์คนใดในห้ายอดเขาที่สามารถสร้างไฟวิญญาณระดับ 2 ได้ สิ่งที่ดีที่สุดในหมู่พวกเขาเกือบจะอยู่ติดกับระดับ 2

ดังนั้น เฟิง ห่าวหยูจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาจะสามารถผ่านการทดสอบปลายเดือนนี้ได้อย่างแน่นอน และได้รับสิทธิ์ในการชมภาพกระบวนการปรับแต่งอาวุธที่ผู้อาวุโสของนิกายทิ้งไว้เบื้องหลัง

แบม!

เมื่อดึงขาตั้งกล้องอาวุธออกจากถุงเก็บของ เฟิง ห่าวหยูก็กระแทกมันลงบนพื้นอย่างแรง และทั่วทั้งห้องโถงก็สั่นสะเทือน

ทุกการกระทำของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน

ไม่มีสาวกแปลก ๆ ร้อยคนที่เข้าร่วมการทดสอบรีบร้อนใด ๆ ขณะที่พวกเขามองไปที่เฟิง ห่าวหยูหลังจากวางขาตั้งอาวุธแล้ว

ริมฝีปากของเฟิง ห่าวหยูโค้งงอ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้หันกลับมา แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาอันเร่าร้อนที่มีความอิจฉาริษยา

นั่นคือความรู้สึกที่เขาชอบ

การบูชาของมวลชน.

เฟิง ห่าวหยูยื่นฝ่ามือออกช้าๆ เพื่อส่งพลังชี่วิญญาณ

ลูกบอลเพลิงลุกขึ้น มันเป็นเพียงสีแดงจางๆ – ไฟวิญญาณระดับ 1

ทั้งห้องโถงเงียบลงขณะที่ทุกคนเฝ้าดูชายที่อยู่ด้านหน้าด้วยลมหายใจซึ้งน้อยลง

ซวย!

เฟิง ห่าวหยูขยายฝ่ามืออีกข้างของเขาขณะที่กระแสพลังชี่วิญญาณพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา เข้าสู่ลูกบอลเพลิงเริ่มต้น

ด้วยเสียงกัมปนาทดังก้อง เปลวไฟก็ลุกโชนสดใสเมื่อมีสีเข้มขึ้น ไม่นานนักก็เป็นสีแดงเข้ม

เพลิงวิญญาณระดับ 2!

ฝูงชนเกิดความโกลาหล!

แม้ว่าสาวกหลายคนของนิกายจะเคยได้ยินเรื่องนี้ แต่พวกเขายังคงตกใจเมื่อเห็นไฟวิญญาณระดับ 2 เป็นการส่วนตัว

อาวุธวิญญาณระดับ 2 จะปรับปรุงอัตราความสำเร็จในการสร้างอาวุธวิญญาณระดับต่ำกว่าอย่างมาก และเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกฝนจำนวนมากไม่สามารถทำได้ในช่วงชีวิตของพวกเขา

เมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นในฝูงชน แววตาแห่งความยินดีก็ฉายแววผ่านดวงตาของเฟิง ห่าวหยู ขณะที่เขาผลักลูกบอลไฟวิญญาณระดับ 2 เข้าไปในขาตั้งกล้องอาวุธของเขา ซึ่งมันยังคงลุกไหม้ต่อไป

เขากำลังอุ่นขาตั้งของเขา

ขั้นแรก พื้นที่รอบๆ ขาตั้งกล้องอาวุธจะต้องได้รับการอุ่นอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ไฟวิญญาณ และหลังจากที่อุณหภูมิสมดุลแล้ว วัสดุก็จะถูกแทรกเข้าไป

เนื่องจากการปรับแต่งอาวุธเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ผู้ฝึกฝนหลายคนที่อยู่เบื้องหลังเฟิง ห่าวหยูจึงเริ่มรวบรวมไฟวิญญาณของตนเองและดำเนินการในระยะอุ่นขาตั้งกล้องเช่นกัน

Xue Yi มองไปที่ Su Zimo “มาเริ่มกันด้วยศิษย์น้องซู”

“ตกลง” ซูซิโม่พยักหน้า

Xue Yi ยื่นมือออกไปขณะที่ลูกบอลเพลิงลุกขึ้น แม้ว่ามันจะเป็นไฟวิญญาณระดับ 1 แต่สีของมันก็เข้มกว่าและแสดงให้เห็นสัญญาณที่คลุมเครือของการวิวัฒนาการเป็นไฟวิญญาณระดับ 2

เราไม่จำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่กระบวนการอุ่นขาตั้งกล้องมากเกินไป

ซู่ยี่หมุนไฟวิญญาณของเขาไปรอบๆ ขาตั้งกล้องอาวุธ ก่อนที่จะปล่อยให้มันไหม้ที่ด้านล่าง และหันหัวไปทางซู่ซิโม่ เขาคิดว่าเขาอาจจะสามารถให้คำแนะนำบางอย่างได้ เนื่องจากน้องชายของเขาเพิ่งเริ่มต้นงานฝีมือการขัดเกลาอาวุธและอาจไม่คุ้นเคยกับมัน

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนั้นของ Xue Yi ทำให้เขาหยั่งรากจากจุดที่เขายืนอยู่

มีลูกบอลเพลิงลุกโชนอยู่บนฝ่ามือของซูซิโม่ และสีของมันก็ค่อนข้างเจาะทะลุ!

Xue Yi นิ่งงันอย่างสมบูรณ์ในขณะที่จิตใจของเขาว่างเปล่า เขาไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าเปลวไฟใต้ขาตั้งกล้องอาวุธของเขาดับลงแล้ว

ซู ซิโม่กำลังเรียนรู้จากคนอื่นๆ รอบตัวเขาเช่นกันโดยการล้อมรอบไฟวิญญาณของเขาไว้รอบๆ ขาตั้งอาวุธ ก่อนที่จะปล่อยให้มันไหม้ที่ด้านล่าง

กระบวนการอุ่นขาตั้งเป็นสิ่งที่ไม่ได้กล่าวถึงเมื่อสาวกนิกายชั้นในอธิบายสิ่งต่าง ๆ ก่อนหน้านี้

ตลอดทั้งเดือน ซู ซิโม่ไม่ได้ฝึกอุ่นขาตั้งกล้องในช่วงที่เขาอยู่อย่างสันโดษ

“ดูเหมือนว่าการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางที่สูญเปล่า ฉันได้บางอย่างจากมัน” ซู ซิโม่ รู้สึกยินดีภายในใจ

“เจ-จูเนียร์บราเดอร์ซู! คะ-ไฟวิญญาณของคุณ…!”

ทันใดนั้น เสียงพูดตะกุกตะกักของ Xue Yi ก็ดังก้องอยู่ในหูของ Su Zimo

เมื่อหันกลับมา ซูซิโม่ก็ยิ้ม “ฉันโชคดีและสามารถปลูกฝังไฟวิญญาณระดับ 3 ออกมาได้โดยบังเอิญ”

เขาไม่ได้พูดด้วยความถ่อมตัว – มันถูกปลูกฝังโดยบังเอิญและเขาไม่ทราบเหตุผลจนถึงทุกวันนี้

ดวงตาของ Xue Yi เบิกกว้างขณะที่กรามของเขาเกือบจะตกลงไปที่พื้น

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินใครบางคนพูดว่าพวกเขาสร้างไฟวิญญาณระดับ 3 ขึ้นโดยบังเอิญ!

แม้ว่าเสียงของพวกเขาจะไม่ดัง แต่สาวกที่อยู่รอบข้างก็ได้ยินทุกสิ่งดังและชัดเจน

ไฟวิญญาณระดับ 3?

ฝันต่อไป!

สาวกบางคนที่อยู่ข้างหน้าหันกลับมาและก็นิ่งงันเช่นกัน

ความตึงเครียดแปลกๆ เริ่มแพร่กระจายและแผ่ซ่านไปทั่วห้องโถง

เมื่อยืนอยู่ด้านหน้า เฟิง ห่าวหยูดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่างในขณะที่เขาขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หันหลังกลับด้วยความเย่อหยิ่ง

ภายในห้องโถง ไม่มีใครควรค่าแก่ความสนใจของเขาให้หันกลับมา!

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องที่เจาะหูก็ทำลายความตึงเครียดแปลกๆ ในห้องโถง

“ไฟวิญญาณระดับ 3!”

หลังจากนั้นก็กรี๊ดไปทั้งห้องโถงก็พังทลายลง

“สการ์เล็ต! มันคือไฟวิญญาณระดับ 3 จริงๆ!”

“คนนี้คือใคร? เขาดูไม่คุ้นเคยเลย! เราไม่เคยเห็นเขามาก่อนได้อย่างไร”

“ฉันคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในสาวกใหม่ที่เข้าร่วมในปีนี้”

“นี่มันช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน ชายคนนี้เป็นเพียงนักรบปรับแต่งพลังปราณระดับ 5 แต่เขายังสามารถฝึกฝนไฟวิญญาณระดับ 3 ได้หรือไม่ นั่นเป็นพรสวรรค์ประเภทไหน?”

เมื่อเขาได้ยินการสนทนาเกิดขึ้นข้างหลังเขา เฟิง ห่าวหยูก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม

เขายืนสงบสติอารมณ์และหันหลังกลับช้าๆ มองย้อนกลับไปอย่างไม่แยแส

เปลวไฟสีแดงเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาในสายตาของเขา

หลังจากนั้น ใบหน้าที่มีลักษณะแหลมคมและเสื้อคลุมสีเขียวที่เขาเคยเห็นมาก่อน

“เขาอีกแล้ว!”

เฟิง ห่าวหยูหรี่ตาของเขาอย่างเย็นชา

“อืม?”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเป็นปฏิปักษ์ ซูซิโม่ซึ่งในตอนแรกยังคงอุ่นขาตั้งอยู่ก็มองดูตามสัญชาตญาณ

“มีประสาทสัมผัสอันแหลมคมอะไรเช่นนี้!”

เฟิง ห่าวหยู ตั้งข้อสังเกตภายใน

เขาเก็บซ่อนความเป็นปฏิปักษ์ไว้อย่างดีแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าซูซิโมจะสังเกตเห็นมัน

การจ้องมองของพวกเขาประสานกันครู่หนึ่งขณะที่เฟิง ห่าวหยูหันกลับมาอย่างไม่แยแสและหยิ่งผยองเช่นเคย

ดูเผินๆ ดูเหมือนว่าเฟิง ห่าวหยูไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ไฟวิญญาณระดับ 2 ใต้ขาตั้งกล้องอาวุธของเขาได้ดับลงแล้ว – นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาตกใจ!

ซูซิโม่ยิ้มและไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ เมื่อสังเกตเห็นว่าขาตั้งกล้องอาวุธของเขาอุ่นแล้ว เขากำลังจะใส่วัสดุของเขา จู่ๆ ศีรษะก็โผล่ออกมาข้างๆ เขา

เขาตกใจมากจนดึงกระบี่เยือกแข็งออกจากถุงเก็บของและเกือบจะฟาดฟันออกไป…

“สวัสดีครับอาจารย์!”

“สวัสดีครับอาจารย์ยอด”

เมื่อเหล่าสาวกในห้องโถงเห็นว่าเป็นใคร ทุกคนก็ทักทายกัน

ซูซิโม่ไอเบา ๆ ทำให้กระบี่พระจันทร์เย็นของเขาไร้ร่องรอย