จักรพรรดิ์ยุทธ์พิชิตสวรรค์ - ตอนที่ 162

บทที่ 162: ประเมินแผ่นทองสัมฤทธิ์ (1)

ผู้แปล: 549690339

มีเพียงแปดคนเท่านั้น และพวกเขาทั้งหมดมีระดับที่เหนือกว่า!

แต่ละคนมีชื่อของตัวเอง เช่น บ้านพักบนภูเขาหรือสนามหญ้า

แก่นแท้ของ Qi ภายในมีความหนาแน่นมากกว่าภายนอกถึงสิบเท่า!

หากเขาสามารถรวม ”บันทึกอมตะแห่งสวรรค์ที่กลืนกิน” ของ Xia qingchen และยาลับแรดหยกเข้าด้วยกันภายในเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง เขาจะสามารถทะลุทะลวงไปสู่ระดับที่แปดของกลุ่มดาวกลางและไปถึงกลุ่มดาวที่ใหญ่กว่าได้ เวทีดาว!

เซี่ยชิงเฉินอดไม่ได้ที่จะขยับตัว

ในหลิงหนานทั้งหมด อาจไม่สามารถค้นพบดินแดนที่ได้รับพรแห่งการเพาะปลูกที่คล้ายคลึงกันสิบแห่งด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามราคาก็แพงมาก มีค่าใช้จ่ายหนึ่งร้อยดาว!

แม้แต่ศิษย์ขั้นสูงก็ไม่สามารถจ่ายได้

Xia qingchen เป็นเพียงสามดาว และเขาก็ยังห่างไกลจากความสามารถที่จะทัดเทียมกับเธอได้

อย่างไรก็ตาม มันหายากสำหรับเขาที่จะหาที่พัก ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“ฉันจะแลกดาวก่อน” ตราบใดที่มีใครบริจาค พวกเขาสามารถแลกดาวได้

นอกจากนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนได้ที่เคาน์เตอร์ใดก็ได้ในห้องโถงดวงดาวแห่งสวรรค์

Xia qingchen มีสิ่งของอยู่ในมือ ไม่ทราบว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนิกายเนบิวลาอย่างไร

“คุณช่วยอย่าทำให้ฉันเสียเวลาได้ไหม? ศิษย์ใหม่เจ้าน่ารำคาญจริงๆ!” ศิษย์หญิงหมดความอดทนและพูดอย่างเย็นชา

เมื่อสาวกธรรมดาเห็นดาวนับร้อยดวง พวกเขาก็จากไปด้วยความขุ่นเคือง

ในทางกลับกัน Xia qingchen แสร้งทำเป็นสงบด้วยสีหน้าตรงและยังแสร้งทำเป็นจริงจังที่จะแลกดาวเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่เหนือกว่า

ศิษย์หญิงเยาะเย้ยในใจผู้มาใหม่ที่กำลังพยายามหาทางออกจากสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้

มือใหม่กล้าคิดเรื่องซิงเหรอ?

ในความฝันของคุณ!

ผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการเสียเวลากับ Xia qingchen อีกต่อไป

Xia qingchen เหลือบมองไปยังศิษย์หญิงคนนั้น

เธอควรจะเป็นเพียงบุคคลระดับต่ำในนิกายเนบิวลา

ความทุกข์ทรมานที่เธอต้องเผชิญตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเห็นใจมือใหม่ที่ตกต่ำเช่นกัน

เขากลับรู้สึกดูถูกเหยียดหยาม

นี่คือความเศร้าโศกของตัวละครรอง วิสัยทัศน์ของเขากว้างไกลอยู่เสมอ และเขาถูกกำหนดให้ไม่มีวันโต

หัวใจของ Xia qingchen ไม่หวั่นไหวเลย เขาเคยเห็นคนที่คล้ายกันมามากเกินไปแล้วและรู้สึกชาไปนานแล้ว

เขาหยิบจานทองสัมฤทธิ์รูปดาบของพระอรหันต์ชุดแดงออกมาวางลงบนโต๊ะ “นี่กี่ดาวคะ?”

ความแข็งแกร่งของผีอรหันต์นั้นใกล้เคียงกับตำแหน่งดาวรองและเขาก็มาจากพระจันทร์ทมิฬด้วย

ไม่ว่าจะมองยังไงก็ตาม Xia qingchen ก็ควรได้รับเครดิตที่กำจัดเขาออกไปใช่ไหม?

เท่าไหร่ถึงจะพอแลกคะแนนดาวได้?

อย่างไรก็ตาม เขาไม่แน่ใจว่าจะแลกได้เท่าไหร่

“ฉันบอกว่าหยุดได้ไหม” สาวกหญิงไม่ได้มองแผ่นทองสัมฤทธิ์รูปดาบด้วยซ้ำ เธอพูดอย่างไม่อดทน “”คุณเป็นมือใหม่ แต่คุณไม่ได้คิดถึงวิธีปรับปรุงความแข็งแกร่งของคุณ แต่คุณกลับแสดงออกไปทุกที่ คุณคู่ควรกับ “ความคาดหวัง” ของพ่อแม่หรือไม่

เธออยากจะบรรยายเขาอย่างมีเหตุผลมากกว่ามองดูสิ่งของบนโต๊ะ

การแสดงออกของ Xia qingchen สงบในขณะที่เขาเก็บแผ่นทองแดงรูปดาบไว้อย่างเงียบ ๆ

เธอหันหลังกลับและไปที่เคาน์เตอร์แลกยาข้างๆ เธอ

เมื่อเห็นเขาจากไป สาวกสาวก็พูดจาบเบอร์ต่อว่า “”เขาเป็นคนแบบไหน? ทำไมเขาต้องบอกความจริงก่อนจะยอมจากไป” Xia qingchen หูหนวกและเดินไปที่เคาน์เตอร์ด้านข้าง

คนที่ดูแลเคาน์เตอร์เป็นเด็กสาวอายุประมาณ 19 ปี บางทีเธออาจเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเธอจึงดูเขินอายเล็กน้อย

ต่างจากคนอื่นๆ ที่ดูแลเคาน์เตอร์ พวกเขาต่างเก็บข้าวของและกลับบ้าน

เธอยังคงอดทน หวังว่าเธอจะโชคดีพอที่จะเจอแขกคนสุดท้ายของวัน

เมื่อเธอเห็น Xia qingchen ถูกตำหนิอย่างรุนแรง เธอก็รู้สึกเห็นใจเขาบ้าง เธอลดเสียงลงแล้วพูดว่า ” อย่าไปใส่ใจ พี่สาวเฉินก็เป็นแบบนั้นมาโดยตลอด

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอได้เห็นศิษย์ใหม่หลายคนถูกปิดกั้นด้วยคำพูดเย็นชาของพี่สาวเฉิน

อย่างไรก็ตาม Xia qingchen เป็นคนที่ถูกดุอย่างโหดเหี้ยมที่สุด

“ฉันสบายดี.” ให้ฉันถามก่อน” Xia qingchen พูดอย่างใจเย็น คนที่ฆ่าคนแห่งจันทราทมิฬสามารถแลกเป็นดวงดาวได้หรือไม่? ‘

หญิงสาวพยักหน้า “แน่นอน!” การสังหาร Dark Moon Slayer เป็นหนึ่งในรางวัลสูงสุด”

ขณะที่เธอพูด เธอหยิบแบบฟอร์มที่เธอวาดเองออกมาแล้วพูดว่า “การฆ่าผู้คนในตำแหน่งต่างๆ ใน ​​Dark Moon จะทำให้คุณได้รับดาวที่แตกต่างกัน

Xia qingchen มองข้ามไป

ผู้คนใน Dark Moon จากต่ำไปสูง แบ่งออกเป็นสี่ประเภท

พวกเขาเป็นศิษย์หอนจันทร์ ผู้บังคับนรก ผีอรหันต์ และอมตะผู้น่ารังเกียจ!

ศิษย์พระจันทร์ที่หอนอยู่ในขั้นกลางของกลุ่มดาวหลัก

อสูรนรกอยู่ในช่วงปลายของกลุ่มดาวหลัก

ระดับพลังยุทธ์ต่ำสุดของพระอรหันต์ผีคือระดับแสงสว่างที่ 9 ของกลุ่มดาวหลัก และโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในระดับกลุ่มดาวรอง

สำหรับอมตะที่น่ารังเกียจนั้น เขาอยู่ในระดับดาวกลางขึ้นไป

แน่นอนว่าสถานะของ Dark Moon ถูกแบ่งออกเป็นมากกว่าสี่ประเภท

อย่างไรก็ตาม นักรบดาร์คมูนที่อยู่เหนือพวกเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกเขาไม่ใช่คนที่สาวกของนิกายเนบิวลาสามารถสังหารได้

ในหมู่พวกเขา การฆ่าศิษย์หอนจันทร์จะทำให้เขาสิบดาว!

การฆ่าคนนรกจะให้สามสิบดาวแก่เขา!

ถ้าฆ่าพระอรหันต์ได้จะได้ดาว 100 ดวง!

สำหรับอมตะที่น่ารังเกียจ เขาจะได้รับ 1,000 ดาว

“ร้อยดาว?” Xia qingchen รู้สึกประหลาดใจ

มีมูลค่าสูงกว่าที่คาดไว้

เขาไม่ได้เสียโคลนแหนบและลูกธนูไปแม้แต่อันเดียว

มันก็คุ้มค่า!

“น้องชาย มันไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าผู้คนจาก Dark Moon คุณควรปลูกฝังก่อนดีกว่า” เด็กสาวปิดปากของเธอและหัวเราะเบา ๆ

เธอรู้สึกว่าคำถามของ Xia qingchen นั้นอยู่ไกลเกินไป

การฆ่าผู้คนแห่งจันทราทมิฬ โอ้พระเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่มีเพียงศิษย์ระดับกลางขึ้นไปเท่านั้นที่กล้าวางแผน

ต้องบอกว่ารุ่นน้องที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ ‘สายตาไกล’ จริงๆ!

ด้วยความประหลาดใจของเธอ Xia qingchen หยิบแผ่นทองแดงรูปดาบออกมาและวางไว้ตรงหน้าเธอ “คุณสามารถตรวจสอบได้

เด็กสาวคว้ามันอย่างสงสัยแล้วพึมพำ “” นี่คืออะไร? มันค่อนข้างหนัก”

อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่มีประสบการณ์มากเกินไปและจำเขาไม่ได้ในทันที

จนกระทั่งเขาเห็นสองคำว่า “พระจันทร์ทมิฬ” เขาก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “โทเค็นประจำตัวของดาร์คมูน?”

โถงดาราสวรรค์ว่างเปล่าในขณะนี้

เสียงร้องด้วยความประหลาดใจนี้ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นโดยธรรมชาติ

พี่สาวเฉินมองดูและดุว่า “” เอะอะเรื่องอะไร?

เธอเหลือบมองเซี่ยชิงเฉินและพูดกับหญิงสาวว่า “”หากคุณไม่เข้าใจ ลองถามเพิ่มเติม อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”

ศิษย์ใหม่สามารถฆ่าคนจาก Dark Moon ได้หรือไม่?

คุณไม่ควรตลกแบบนี้!

ในท้ายที่สุด น้องสาวก็ยังขาดประสบการณ์เกินไป และไม่มีสามัญสำนึกใดๆ

เด็กสาวรู้สึกผิดทันที

เธอไม่เคยเห็นสัญลักษณ์ของดาร์กมูนมาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่แน่ใจ

เขาถือมันไว้ในมือแล้วมองดูมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ด้านหน้าของโทเค็นมีคำว่า “พระจันทร์ทมิฬ”

อีกด้านหนึ่งมีหงกู่

หลังจากดูอยู่นานเธอก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอพูดขอโทษ “” น้องชายคุณช่วยรอสักครู่ได้ไหม? ฉันจะไปถามผู้จัดการ”

แต่ละเคาน์เตอร์มีผู้จัดการ

อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านมีงานยุ่งและจะออกงานให้เหล่าสาวกดูแลเคาน์เตอร์

เขาจะจัดการกับเรื่องสำคัญ

เหล่าสาวกสามารถขอคำแนะนำจากผู้จัดการในสถานการณ์สำคัญเท่านั้น

ตอนนี้เด็กสาวไม่สามารถตัดสินใจได้ เธอทำได้เพียงมองหาเจ้าของร้านเท่านั้น

“โดยเร็วที่สุด” Xia qingchen พูดอย่างอดทน

ทัศนคติของหญิงสาวก็ไม่เลว ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะให้โอกาสเธอ

ฝ่ายหลังรีบวิ่งออกไปทันทีด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและไปที่ส่วนลึกของห้องโถงดาราแห่งสวรรค์

ในห้องโถงด้านข้าง

เจ้าของร้านทั้งสิบคนที่เคาน์เตอร์กำลังคุยกันอยู่ในห้องโถง

ศิษย์ระดับกลางและระดับล่างได้นำศิษย์ที่ได้รับเลือกกลับมาทีละคน เราต้องให้รางวัลดาวแก่พวกเขาโดยเร็วที่สุดตามคุณภาพของลูกศิษย์ที่เรานำกลับมา

“ถูกต้อง ในที่สุดเรื่องนี้ก็สิ้นสุดลงแล้ว”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเวลาที่ยุ่งที่สุดสำหรับห้องโถงดาราแห่งสวรรค์

เหล่าสาวกระดับกลางและระดับล่างได้รับคำสั่งให้นำศิษย์ใหม่กลับมาทีละคน

พวกเขายุ่งอยู่กับการช่วยแลกดาว และเพิ่งหยุดไปไม่นานนี้

“ผู้ที่มีดาวรางวัลสูงสุดควรเป็นศิษย์ของดาบเล่มที่สิบแปด จางจื้อเยว่ใช่ไหม? เขานำศิษย์หมอผู้เป็นอมตะกลับคืนมา ไซเทียน!” อิอิ มันยากที่จะพูด ลืมไปหรือเปล่าว่ามุกพระจันทร์ก็กลับมาด้วย

พระจันทร์เพิร์ลได้รับการช่วยเหลือมาได้ครึ่งทาง ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าใครพาเธอกลับมา

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน เด็กสาวก็วิ่งออกจากห้องโถงด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

เมื่อมองไปที่เจ้าของร้านหลายคนกำลังคุยกัน GUI คุณก็ไม่กล้าเข้าไป

“ผู้จัดการหยาง ศิษย์ที่เคาน์เตอร์ของคุณอยู่ที่นี่” เจ้าของร้านที่มีเคราแพะมีสีหน้าเยาะเย้ย

เขาดูแลที่อยู่อาศัย ดังนั้นเขาจึงมีความสัมพันธ์เชิงแข่งขันกับผู้จัดการหยาง ซึ่งเป็นผู้ดูแลเคาน์เตอร์จำหน่ายยาจิตวิญญาณและยารักษาโรค

ผู้จัดการหยางมองออกไปข้างนอกและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ

ศิษย์ใหม่คนนี้น่าผิดหวังเกินไปจริงๆ

เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้ทำเรื่องตลกค่อนข้างน้อย

ครั้งหนึ่ง เขาประเมินว่าการมีส่วนร่วมหนึ่งดาวเป็นสามดาวจริง ๆ และเกือบจะทำให้เกิดความยุ่งเหยิง

ตอนนี้เมื่อเขาวิ่งไปด้วยความวิตกกังวล เขาน่าจะประสบปัญหา

ใบหน้าของผู้จัดการหยางดูกระสับกระส่ายขณะที่เขาโบกมือด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อย “เข้ามาพูดคุย!”

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าหญิงสาวมาจากอาณาจักรเดียวกับเขาและถือว่ามาจากบ้านเกิดเดียวกันกับเขา เขาก็คงไม่สนใจที่จะดูแลเธอ

“เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว?” ผู้จัดการหยางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

เด็กสาวก้มศีรษะลง ริมฝีปากของเธอบิดเบี้ยวขณะที่เธอพูดอย่างเขินอาย

‘”’1 มีบางอย่างที่ฉันไม่สามารถประเมินได้ ดังนั้นฉันต้องการให้คุณตรวจสอบมัน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กลุ่มเจ้าของร้านก็ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร

ผู้จัดการหยางไม่ได้กำลังหาปัญหาให้ตัวเองโดยการหาคนแบบนี้คอยเฝ้าเคาน์เตอร์ไม่ใช่หรือ?