ซ่อนและฝึกฝนในพระราชวังตะวันออก เพียงเพื่อจะพบว่าเจ้าชายเป็นเด็กผู้หญิง - บทที่ 55

บทที่ 55: จักรพรรดินีมาถึง

ผู้แปล: 549690339

พัฟ!

องค์หญิงฉางซีพ่นลูกศรเลือดออกมา ในช่วงเวลาวิกฤติ ศักยภาพของเธอก็ระเบิดออกมา แม้ว่าศีรษะของเธอจะรอดพ้นจากภัยพิบัติและหลีกเลี่ยงการถูกทุบเป็นชิ้นๆ แต่ไหล่ขวาของเธอกลับถูกฝ่ามือฟาด ส่งผลให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง เธอเป็นเหมือนว่าวที่มีเชือกขาด ยังคงห้อยอยู่ด้วยลมหายใจ

ขณะนี้มีคนมาถึง มันไม่ใช่แค่คนคนเดียว แต่เป็นกลุ่ม โดยมีองค์ปฐมเป็นผู้นำ เจ้าชายเกือบทั้งหมดก็มาถึงและหยุดที่ประตูพระราชวัง

เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่ก้าวไปข้างหน้าและยิ้มโดยไม่แม้แต่จะมองดูเจ้าหญิงฉางซีที่กำลังจะถูกนำออกไป” “เราไม่ได้รวมตัวกันเป็นเวลานาน ดังนั้นเราจึงมารวมตัวกันเพื่อดื่มชาและพูดคุยกัน ชิมิน นายคงไม่รังเกียจใช่ไหม?”

นี่คือสิ่งที่เธอเตรียมไว้ ก่อนออกจากบ้านเธอได้ขอให้สาวใช้ส่งข้อความถึงพวกเขาโดยเชิญชวนให้มาดูการแสดงดีๆ มีเพียงสี่คำเท่านั้น “โค่นล้มสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพิจารณาถึงผลกำไรและขาดทุน และพูดคุยกับคลังความคิดของเขา ฉากนี้ก็เกิดขึ้น

ผู้ที่อยู่ใกล้พระราชวังตะวันออกจงใจควบคุมความเร็วของพวกเขา ผู้ที่อยู่ห่างไกลจากพระราชวังตะวันออกไม่ได้เป็นผู้นำ พวกเขารอจนกระทั่งเกือบจะถึงที่นั่นก่อนจึงจะเพิ่มความเร็ว

สายตาของทุกคนเป็นเหมือนกัน ต้องการดูว่าองค์หญิงฉางซีจะโค่นมกุฏราชกุมารได้อย่างไร

หากเขาล้มลงจริงๆ พวกเขาจะได้ประโยชน์มากที่สุด

โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ พวกเขาก็จะได้สิ่งที่ต้องการ ไม่มีใครปฏิเสธได้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย

ลึกยิ่งขึ้น

ตั้งแต่เกิดก็ยืนอยู่คนละฟาก ถูกกำหนดไว้แล้วว่ามีเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะหัวเราะครั้งสุดท้าย

มกุฎราชกุมารยิ้มราวกับว่าเหตุการณ์ของเจ้าหญิงฉางซีไม่เคยเกิดขึ้น แต่หัวใจของเขาเย็นชามาก เขาเดาว่าเธอจะเตรียมแผนสำรอง แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะเรียกเจ้าชายเหล่านี้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร แต่ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ มันไม่ง่ายขนาดนั้น เธอต้องมีไพ่เด็ดอื่น ๆ

เขารู้ดีว่าทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่

โกรธแค่ไหนก็ไม่แสดงออกมา “คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?

ฉันจะรังเกียจพวกเราพี่น้องที่มารวมตัวกันได้อย่างไร”

น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป เย็นชาและอาฆาต

เขาชี้ไปที่เจ้าหญิงฉางซี” เธอพยายามจะลอบสังหารฉันเมื่อกี้และได้รับบาดเจ็บจากคนของฉัน พวกคุณห้ามฉันไม่ให้ทำมัน พวกคุณร่วมงานกันเหรอ?” ”

“เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? ทำไมป้าฉางซีถึงอยากลอบสังหารคุณ? เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเรารู้เราจะไม่ปล่อยให้เธอทำเช่นนี้”

“ ฉันอยากจะฆ่าเธอตอนนี้แล้วคุณอยากหยุดฉันไหม”

เจ้าชายองค์แรกส่ายหัว และเจ้าชายคนอื่นๆ ก็เช่นกัน “ไม่แน่นอน!

แม้ว่าเขาจะต้องการฆ่าพวกเขา แต่เขาก็ต้องชี้แจงเรื่องนี้เพื่อที่เขาจะได้อธิบายเมื่อพ่อของเขาถาม”

มกุฏราชกุมารหรี่ตาลงและมองดูพวกเขา เป็นการเผชิญหน้าที่มองไม่เห็น!

ก่อนที่พวกเขาจะมา เธอสามารถฆ่าเขาได้ แต่ตอนนี้ ต่อหน้าพวกเขา เขากำลังส่งเธอไปตามทางของเธอ แม้ว่าจะมีเหตุผลในเรื่องนี้ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พ่อของเขาจะคิดมากเกินไป

บรรยากาศตึงเครียด

เสียงที่เย็นชาและมีพลังดังขึ้น “” จักรพรรดินีมาถึงแล้ว!”

เขามองไปทางต้นเสียง

ภายใต้การคุ้มครองของ Phoenix Guards จักรพรรดินีก็เดินขึ้นมาจากด้านหลัง ใบหน้าของเธอเย็นชาและออร่าของเธอก็ทรงพลัง เธอยังไม่ได้พูดเลย แต่เธอก็ทำให้ทุกคนกดดันอย่างมากแล้ว

มกุฎราชกุมารก้าวไปข้างหน้า และเจ้าชายคนอื่นๆ ก็ตาม พวกเขาโค้งคำนับแล้วพูดว่า’” ‘ลูกชายของคุณ (เจ้าชายทุกคนพูดชื่อ) ทักทายแม่ (เนียงเนียง)!”

จักรพรรดินีพยักหน้าให้เขาและเดินไปหาเจ้าหญิงฉางซีโดยไม่มองเจ้าชาย เมื่อเห็นว่าเธอยังมีชีวิตอยู่และแขวนอยู่บนพื้น แสงเย็นๆ ก็แวบผ่านดวงตาที่สวยงามของเธอขณะที่เธอถามว่า “เกิดอะไรขึ้น” สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

หลังจากฟัง.

จักรพรรดินีจ้องมองไปที่เจ้าชาย ดวงตาฟีนิกซ์สีแดงของเธอหรี่ลงเล็กน้อย คำพูดของเธอเบามาก แต่มีเจตนาฆ่าอย่างไร้ขอบเขต “เธอไม่ควรถูกฆ่าเหรอ?”

ไม่มีเจ้าชายคนใดกล้ามองเธอแล้วก้มหัวลง

ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเธอ อย่างน้อยก็เพียงผิวเผิน จักรพรรดินีทรงอำนาจมาก หลังจากนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้เป็นเวลาหลายปี กระดูกของผู้ที่กล้าท้าทายเธอก็เย็นชาแล้ว

“ฆ่าพวกเขา!”

ชิงเอ๋อชักดาบของเธอออกมา ดาบเปล่งประกายด้วยแสงเย็นขณะที่เธอเตรียมจะส่งเธอไปตามทาง แต่ก่อนที่เธอจะลงจอด มีคนอีกกลุ่มหนึ่งก็มาถึง คราวนี้คือ Wei Shang ผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของจักรพรรดิ Xia เขาเป็นผู้นำกลุ่มคน “คนรับใช้ชราคนนี้ทักทายจักรพรรดินี!”

“ฝ่าบาททรงส่งท่านมาที่นี่หรือ?”

“ใช่” เว่ยชางตอบ สืบสานพระราชโองการ พาเจ้าหญิงฉางซีไปด้วย ทุกคนจะเข้าไปในวังทันที”’

จักรพรรดิเซี่ยได้พูดไปแล้ว

จักรพรรดินีต้องการสังหารพวกเขา แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอสามารถปราบเจ้าชายเหล่านี้ได้ และจักรพรรดิเซี่ยก็ทำได้เช่นกัน

หลังจากทำลายโลกแห่งภาพลวงตา จางหรงฮวาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในพระราชวังตะวันออก แต่เขารู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถล่าช้าได้ ดังนั้นเขาจึงใช้เทคนิคการใช้ร่างกายอย่างเต็มที่และรีบกลับไป

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในเมืองหลวง พวกเขาก็เห็นเจิ้งฟู่กุ้ย, หม่าปิงอัน และหลู่จ้านถัง พวกเขานำทัพไปเผชิญหน้ากับนายน้อยสามคนของมาร์ควิสผู้ภักดี หลิน ซื่อหยวน และคนอื่นๆ

เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว ทั้งสองฝ่ายก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกัน

เจิ้ง ฟู่กุ้ย ประหลาดใจอย่างมาก แต่อีกฝ่ายกลับตกอยู่ในภาวะโกลาหล รู้สึกเหมือนท้องฟ้าพังทลายลง ดยุคผู้ภักดีและคนอื่นๆ ตายไปแล้วเหรอ? เขาได้รับมันหรือไม่?

เขามองดูพวกเขาอย่างเย็นชา

“เอาพวกมันทั้งหมดลงไป!” จางหรงฮวาสั่ง ผู้ที่ต่อต้านจะถูกประหารชีวิตตามความผิดฐานกบฏ”

โดยไม่รอให้พวกเขาพูด เขายังคงรีบเร่งไปทางทิศตะวันออก

พระราชวัง.

“ลูกพี่ลูกน้องคุณกำลังทำอะไรอยู่” เจิ้งฟู่กุ้ยตะโกนจากด้านหลัง”

เขาโยนประโยคลงไปโดยไม่หันกลับมามอง

“ปฏิบัติตามคำสั่ง!”

หม่าปิงอันและหลู่จ้านถังมองหน้ากันและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พวกเขานำคนของพวกเขาและพุ่งไปข้างหน้า เจิ้ง ฟู่กุ้ยฟังคำพูดของเขาและใช้หมัดปราบปรามโลกแม่น้ำภูเขาโจมตีลูกชายทั้งสามของมาร์ควิสผู้ภักดี ในพระราชวังตะวันออก

ในที่สุดจางหรงฮวาก็กลับมาแล้ว เมื่อเขาไปถึงห้องโถงด้านหลัง เขาบังเอิญเห็น Wei Shang กำลังส่งคำสั่งด้วยวาจาของจักรพรรดิ Xia รูปร่างหน้าตาของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนอีกครั้ง

เขารีบเดินไปที่ด้านข้างของมกุฎราชกุมารและกระซิบข้างหูของเขา เขากระซิบคำพูดสองสามคำเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะส่งหินบันทึกเสียงให้เขา

มกุฎราชกุมารพยักหน้าและสั่งห้ามไม่ให้ใครออกไป

กลุ่มคนออกไปและนั่งรถม้ามุ่งหน้าสู่พระราชวังอิมพีเรียล

หลังจากที่พวกเขาออกไป เขาก็เข้าไปในห้องโถงซวนเหอและถามว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’ ชิงเอ๋อบอกเขาทุกอย่าง

“เธอรู้ได้อย่างไรว่าการผ่าตัดล้มเหลว” Zhang Ronghua ขมวดคิ้วงงงวย ” “เขาอยู่ที่ไหน?”

“ตาย ! ”

เขาเล่าเรื่องสุนัขปีศาจให้เธอฟังอีกครั้ง

ทันใดนั้นทั้งสองคนก็ตระหนักได้ว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่องค์หญิงฉางซีสิ้นหวังและเสี่ยงที่จะสังหารมกุฎราชกุมาร

เขาไม่สามารถเข้าใจได้

มีการพลิกผันมากเกินไปในเรื่องนี้ เมื่อมกุฎราชกุมารกลับมาเท่านั้นที่เขาจะสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้

สำหรับเจิ้ง ฟู่กุ้ย เขาไม่กังวล เป็นเรื่องง่ายที่จะโค่นหน่วยงานคุ้มกันพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์และบุตรชายทั้งสามของดยุคผู้ภักดี

เขารอฟังข่าวในพระราชวังตะวันออก

รวดเร็วมาก.

เจิ้งฟู่กุ้ยและคนอื่นๆ กลับมา และหลู่จ้านถังก็มาด้วย นายน้อยสามคนของ Loyalty Marquis, Lin Shiyuan และลูกชายของเขาถูกจับ ส่วนคนอื่นๆ ถูกฆ่าหรือถูกคุมขัง

พวกเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงพูดอย่างเป็นกันเองมาก.. หม่าปิงอันถามว่า “”เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมวันนี้เขาหัวยุ่งแบบนี้ล่ะ”