ผู้ก่อตั้งหมายเลข 1 ของประวัติศาสตร์ - บทที่ 535

ตอนที่ 535: ถูไหล่อีกครั้ง
ผู้แปล: ผู้แก้ไขการแปลนกกระจอก: การแปลนกกระจอก

ราชาวัวกุยพุ่งข้ามความว่างเปล่าและรีบไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรโจวที่ยิ่งใหญ่ – เมืองเทียนจิง แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักความเร็วในการบิน แต่เขาก็ยังไปถึงจุดหมายปลายทางโดยไม่ชักช้า

เมื่อเขาไปถึงเมืองเทียนจิง ราชาวัวกุยก็ทำตามคำแนะนำของจูอี้ และมาถึงบ้านพักเล็ก ๆ นอกเมือง นี่เป็นทรัพย์สินเล็กๆ ที่ Zhu Yi ลงนามและซื้อด้วยตัวเขาเอง โดยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกฝังและเตรียมพร้อมสำหรับการสอบของเขา

ราชาวัวกุยแปลงร่างเป็นมนุษย์และกลายร่างเป็นชายร่างสูงและภาคภูมิใจ เขาเข้าไปในบริเวณนั้นและเห็นจูยี่ยืนอยู่กลางสวน จูยี่ทักทายราชาวัวกุยทันทีเมื่อเขามาถึง “ขอบคุณที่ร่วมเดินทางครั้งนี้”

“ระดับความเชี่ยวชาญของเขาเพิ่มขึ้นมากนับตั้งแต่เขาออกจากภูเขา” ราชาวัวกุยคิดกับตัวเองขณะที่เขามองไปที่จู้ยี่ “สาวกของนิกายสวรรค์ล้วนมีความสามารถและมหัศจรรย์มาก แม้แต่นิกาย Great Void ก็ยังไม่มีอัจฉริยะมากมายขนาดนี้”

แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับกลางของจอมอสูร แต่เขาไม่กล้าที่จะคิดจริงจังเกินไปต่อหน้า Zhu Yi, Shi Tianhao และคนอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ แม้ว่าเขาจะมีพลังมากกว่าคนเหล่านี้ แต่เขาก็ยังคงเคารพพวกเขาเพราะสถานะของพวกเขาในฐานะสาวกของ Lin Feng

แต่ตอนนี้ พลังของพวกเขาอยู่นอกเหนือเขาไปแล้ว แม้ว่าเขาจะคร่ำครวญเล็กน้อย แต่ความเคารพต่อจู้ยี่นั้นไม่ได้เป็นการให้ความเคารพต่อตัวจู้ยี่มากกว่าสถานะของเขา

ราชาวัวกุยตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก ผู้นำนิกายก็มีคำสั่งให้ฉันอยู่แล้ว และการเดินทางแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

จู้ยี่พยักหน้าขณะที่เขาปรบมือ เด็กสาวสองคนวิ่งออกมา คนหนึ่งสวมเสื้อสีแดง และอีกคนสวมชุดสีม่วง

คนที่สวมสีแดงคือหลัวชิงหวู่ และหญิงสาวที่สวมสีม่วงคือจวินซีหนิง เด็กหญิงทั้งสองมาถึงข้างๆ จูอี้ และพินิจพิเคราะห์ร่างมนุษย์ของราชาวัวกุยอย่างสงสัย พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังของเขาเพียงเล็กน้อยแล้ว

“นี่คือราชาวัวกุย และเขาจะพาคุณสองคนกลับไปที่ภูเขายูจิง” จูอี้เริ่มแนะนำตัว

ในที่สุดจวินซีหนิงก็ตระหนักได้ว่านี่คือราชาวัวกุย เธอเคยเห็นร่างดั้งเดิมของราชาวัวกุยมาก่อน และตอนนี้เขาอยู่ในร่างมนุษย์ เธอยังคงรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย เธอตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นจากคำพูดของจู้ยี่

เธอทักทายราชาวัวกุยกับหลัวชิงหวู่ทันที “สวัสดีครับท่าน”

ราชาวัวกุยเป็นคนถ่อมตัวและภักดีโดยธรรมชาติ และไม่วางตัวเลย เขาพยักหน้าแล้วตอบว่า “สวัสดีครับพวกคุณ”

เขาได้รับคำแนะนำจาก Lin Feng ก่อนที่เขาจะมาถึง เขารู้ว่างานของเขาคือพาเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนนี้กลับขึ้นไปบนภูเขา

แม้ว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสองจะอยู่ในช่วงฝึกฝน Qi เท่านั้น แต่เขาพยายามที่จะทำงานให้สำเร็จอย่างถูกต้องและไร้ที่ติ เนื่องจาก Lin Feng เป็นผู้ที่มอบหมายงานนี้ให้กับเขา

เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนปีนขึ้นไปบนหลังของเขา ดังนั้นเขาจึงปล่อยลูกบอลพลังงานปีศาจทันทีและกวาดพวกมันขึ้นไป

จูอี้กล่าวว่า “เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวมชุดสีแดงได้รับบาดเจ็บและต้องถูกนำกลับไปที่ภูเขาเพื่อรับความช่วยเหลือทางการแพทย์ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นฉันจะไม่รั้งคุณไว้อีกต่อไป โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”

ราชาวัวกุยยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบว่า “คุณใจดีเกินไป การเดินทางของฉันที่นี่เป็นเรื่องของความเป็นมืออาชีพเท่านั้น และสิ่งที่ฉันหวังก็แค่ทำงานให้เสร็จโดยไม่ล้มเหลว ฉันขอให้คุณโชคดีกับการสอบของคุณ และหวังว่าคุณจะได้รับเกียรติ”

จูอี้กลับทักทายและหัวเราะเช่นกัน “ขอบคุณสำหรับคำพูดดีๆ ของคุณ”

ราชาวัวกุยเพิ่งจากไปเมื่อมีคนรับใช้มารายงานตัวกับจูยี่ “อาจารย์ยี่ มีคนมาที่นี่เพื่อพบคุณ”

จู้ยี่เหลือบมองบุคคลที่มาถึง แต่จำบุคคลนั้นไม่ได้ เขามองเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อยและรู้สึกได้แผ่วเบาว่าบุคคลนี้เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของเขาไปอย่างสิ้นเชิงด้วยยาเม็ดและยารักษาโรค แม้แต่ออร่ามานาของเขาก็แตกต่างออกไป

“ฉันต้องใช้สิ่งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาและหูของผู้อื่น โปรดยกโทษให้ฉันอาจารย์ Zhu Yi”

หลังจากที่คนรับใช้ของ Zhu Yi ถอนตัวออกจากที่เกิดเหตุ บุคคลนี้ก็ถอดรูปลักษณ์ปลอมของเขาออกทันที เขาดูเหมือนชายชราผอมแห้ง และกลายเป็นชายหนุ่มที่น่าภาคภูมิใจในทันที

“อ๋อ คุณเองเหรอ?” จู้ยี่จำใบหน้าที่ปรากฏตรงหน้าเขาได้ มันคือชูหยาง หนึ่งในผู้ฝึกฝนรุ่นน้องภายใต้การบังคับบัญชาของเจ้าชายคนที่สี่ของอาณาจักรโจวที่ยิ่งใหญ่ เหลียงกาน

เขาเงยหน้าขึ้นมองที่ชูหยาง และแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยนไป แต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

นี่เป็นเพราะว่าตอนนี้ Chu Yang อยู่ในขั้นตอนการก่อตั้งรากฐาน

เมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกบนภูเขา Yujing เมื่อปีที่แล้ว Chu Yang อยู่ที่ระดับการฝึกฝน Qi เพียงระดับที่ 10 และยังไม่ใกล้จะสำเร็จระดับสุดท้ายของการฝึกฝน Qi ด้วยซ้ำ

ผ่านไปหนึ่งปี และเขาก็อยู่ในขั้นตอนการก่อตั้งรากฐานแล้ว ความเร็วนี้ไม่อาจถือว่าช้าได้ – จริงๆ แล้วมันเป็นความเร็วที่เร็วมาก

เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้หากเขาอยู่ที่ระดับ 12 ของระยะฝึกฝน Qi ก่อนที่เขาจะพยายามบุกเข้าสู่ขั้นก่อตั้งรากฐาน มีหลายครั้งที่คลื่นแห่งความศักดิ์สิทธิ์สามารถประหยัดเวลาอันมีค่าได้มาก

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่จากระดับการฝึกฝน Qi ระดับ 10 ไปจนถึงจุดสุดยอดของขั้นก่อตั้งรากฐานหมายความว่าเขามีจุดตรวจและอุปสรรคมากมายที่ต้องผ่าน มันน่าประทับใจมากที่เขาสามารถก้าวหน้าได้ในช่วงเวลาอันสั้นเช่นนี้

เขายังคงค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับ Zhu Yi และคนอื่นๆ แม้ว่าจูอี้และเพื่อนรุ่นน้องและผู้อาวุโสของเขาจะยังไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขาเมื่อพวกเขาอยู่ในขั้นตอนการก่อตั้งรากฐาน แต่การฝึกฝนของชูหยางก็ไม่สามารถเทียบได้กับวิถีสวรรค์อันยิ่งใหญ่แห่งแปดไตรแกรมของหลินเฟิง

จูอี้บอกได้เลยว่าชูหยางไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในถ้ำที่เร่งเวลา และเพียงแค่บดมันปีแล้วปีเล่า

ชูหยางเพิ่งอายุได้สิบหกปี และเขาอยู่ในขั้นตอนการก่อตั้งรากฐานแล้ว เขาจะได้รับการพิจารณาให้เป็นศิษย์ที่โดดเด่นไม่ว่าเขาจะอยู่ในนิกายใดก็ตาม

นิกายของ Chu Yang นิกาย Ethereal Mountain ไม่ถือว่าเป็นพลังที่โดดเด่น มันด้อยกว่าอยู่แล้วแม้ว่าจะเปรียบเทียบกับนิกายเช่น Aeolus Sect และ Yu Family ซึ่งทั้งสองอย่างที่ Lin Feng เคยกำจัดไปก่อนหน้านี้ ไม่มีอะไรจะพูดมากเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของพวกเขาเมื่อเทียบกับนิกายสวรรค์หรือนิกายความว่างเปล่า

มนต์และทรัพยากรที่นิกายภูเขาไร้ตัวตนมอบให้ชูหยางนั้นไม่ถือว่าเหนือกว่าหรือระดับสูงมาก ดังนั้นความก้าวหน้าของเขาในวันนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการทำงานหนักและพรสวรรค์ของเขาเอง

Zhu Yi ตรวจดูเขาชั่วครู่แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแหลมคมที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของ Chu Yang แม้ว่ามันจะคลุมเครือและยังคงสงบนิ่ง แต่วันหนึ่งมันจะแหวกท้องฟ้าออกและทะยานสู่สวรรค์

ความรู้สึกนี้มีเอกลักษณ์และลึกลับอย่างยิ่ง ไม่มีหลักฐานอะไรเลย เป็นเพียงสัญชาตญาณของ Zhu Yi ที่พูดออกมา

“คนที่มีความลับ…” จูอี้หัวเราะกับตัวเองแต่ไม่ได้สนใจมันอีกต่อไป ในระดับที่เขาอยู่ตอนนี้ พร้อมด้วยเซียวหยานและชิเทียนห่าว สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือเดินต่อไปในเส้นทางเดิมที่พวกเขาได้เดินทางต่อไป

จู้ยี่ถามอย่างชัดเจนว่า “นั่นสินะคุณเพื่อนของฉัน ฉันสงสัยว่าอะไรทำให้คุณมาที่นี่”

เขาชัดเจนว่าแม้ว่ามาตรฐานของ Chu Yang จะด้อยกว่าเขา แต่เขาก็ยังอยู่ในวงในขององค์ชายสี่ Liang Gan

ชูหยางแสดงความตั้งใจของเขาชัดเจน ประเด็นหลักคือการเชิญ Zhu Yi ในนามของเจ้าชาย Liang Gan เพื่อแสดงความปรารถนาดี Liang Gan หวังว่าจะได้พบกับ Zhu Yi

มกุฎราชกุมาร Liang Yuan ได้รับคำแนะนำอย่างไม่ดีจาก Chen Yu และทำการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาด ในขณะที่ความบาดหมางของเขากับ Zhu Yi เริ่มลึกซึ้งยิ่งขึ้น สถานการณ์ที่ Liang Gan องค์ชายสี่ได้เปรียบ Liang Gan ต้องการใช้โอกาสนี้สร้างสายสัมพันธ์กับ Zhu Yi

ความประทับใจของ Zhu Yi ที่มีต่อ Liang Gan ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก เขาตั้งใจที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเหลียงกานให้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ เขาต้องมีสมาธิกับการสอบที่กำลังจะเกิดขึ้นที่เขากำลังจะสอบ

ทั้ง Liang Gan และ Chu Yang เข้าใจเรื่องนั้น พวกเขาไม่ได้กำหนดเวลา และข้อความที่พวกเขาพยายามจะสื่อก็คือการเชิญจู้ยี่ให้หาเวลาสังสรรค์กันเล็กน้อย มันมีรายละเอียดต่ำมากเช่นกัน

จูอี้จะไม่ปฏิเสธคำเชิญเช่นนี้แน่นอน เขาคุยกับชูหยางอย่างเฉยๆ แต่เริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

นี่เป็นเพราะเขาสังเกตเห็นว่าชูหยางไม่ได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ

แม้ว่าปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาจะมีจำกัด แต่จู้ยี่ก็รู้ว่านี่คือบุคคลที่มีความยืดหยุ่น มุ่งมั่น และเด็ดขาด ตอนนี้มันสับสนเล็กน้อยในขณะที่ทำธุระให้เหลียงกานดูเหมือนหาได้ยากและไม่ปกติ

ในระหว่างการสนทนา ดวงตาของ Chu Yang จะกวาดสายตาไปรอบๆ ลานของ Zhu Yi โดยไม่รู้ตัว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พยายามสอดแนมอะไรก็ตามหรือใครก็ตามที่อยู่ข้างใน แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังมองหาใครสักคน

“คุณกำลังมองหาใคร?” จู้ยี่คิดกับตัวเองแต่ไม่ได้ชี้ให้ชูหยางฟัง เห็นได้ชัดว่าเขาจะต้องกลับมาโดยไม่มีผลลัพธ์ที่เหมาะสม และเขาไม่กล้าใช้จิตสำนึกหรือประสาทสัมผัสทางจิตเพื่อกวาดล้างพื้นที่ตรงหน้าจู้ยี่ ในท้ายที่สุด เขาทำได้เพียงจากไปด้วยความผิดหวังเมื่อเขาออกจากลานบ้านด้วยสีหน้าหดหู่

จูยี่รู้สึกงุนงงเล็กน้อย “นี่เขากำลังทำอะไรอยู่? หากมีสิ่งผิดปกติเช่นนั้นก็ต้องมีบางอย่างผิดปกติ”

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือชูหยางก็ปวดหัวเช่นกัน “รายงานระบุว่ามีเด็กสาวชุดแดงเข้ามาในลานบ้านของจู้ยี่ แต่การเดินทางของฉันที่นี่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากฉันรู้สิ่งนี้ ฉันคงจะพบและเป็นข้ออ้างที่จะลองเข้าไปในศาลาของ Chen Yu สักครั้ง แต่ฉันก็ทำแบบเดียวกันกับลานบ้านของ Zhu Yi ไม่ได้”

ชูหยางมองไปทางทิศตะวันตกและคิดกับตัวเองว่า “คุณอยู่ที่ไหน หลัวชิงหวู่?”

เขาสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาบางส่วนให้ความสนใจกับบริเวณรอบ ๆ ลานของ Zhu Yi อย่างไรก็ตาม เหตุผลไม่ใช่เพื่อสอดแนม Zhu Yi แต่เป็นการจดบันทึกใครก็ตามที่เข้าและออกจากลานบ้านของ Zhu Yi ถึงกระนั้น จนถึงตอนนี้พวกเขาเพียงรายงานการเข้าไปในลานของหลอชิงหวู่เท่านั้น แต่ไม่มีใครเห็นว่ามีใครออกไป

อย่างไรก็ตาม ราชาวัวกุยได้นำเด็กสาวทั้งสองออกไปโดยตรงโดยใช้พลังปีศาจของเขา และโดยธรรมชาติแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของชูหยางสามารถตรวจจับได้

ในขณะนี้ เด็กสาวที่ฉุดรั้งชูหยางแต่ยังคงพลาดไปอย่างหวุดหวิด ถูกราชาวัวกุยพามา และกำลังเดินทางไปภูเขาหยูจิ่งด้วยดี

ราชาวัวกุยไม่ได้หยุดเลยตลอดทางและกลับไปที่ภูเขาหยูจิงโดยเร็วที่สุดเพื่อรายงานต่อหลินเฟิง

หลินเฟิง ยิ้มเมื่อเขาเห็นพวกเขามาถึงและพูดว่า “ขอบคุณสำหรับความพยายามของคุณ” เขาปรบมือเบาๆ และก้อนน้ำสีทองที่ห่อหุ้มด้วยพลังงานสีม่วงลอยอยู่ตรงหน้าราชาวัวกุย มันเป็นส่วนหนึ่งของไขกระดูกของคุนเผิง และมีแก่นแท้ของปีศาจจำนวนมากอยู่ภายใน

ราชาวัวกุยรู้สึกยินดีและทักทายหลินเฟิงด้วยความเคารพ “ขอบคุณครับท่าน”

หลินเฟิงหัวเราะตอบและพูดว่า “คุณจริงจังและมีประสิทธิภาพในการทำงานของฉันให้สำเร็จมาโดยตลอด ฉันจะไม่สูญเสียคุณเพื่อใครในโลกนี้”

ราชาวัวกุยตอบว่า “ในบรรดาลอร์ดปีศาจคนอื่นๆ บนภูเขา ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นผู้นำกลุ่มชนเผ่าทั้งหมด คนอื่นอยู่คนเดียว ความจริงที่ว่าคุณให้เราปลูกฝังบนยอดเขา Yujing ซึ่งเป็นสถานที่พิเศษที่เหนือกว่าโลกภายนอก ถือเป็นความโปรดปรานที่ยิ่งใหญ่ในตัวมันเอง ฉันไม่กล้าขออีกต่อไป”

หลินเฟิง โบกมือในการไล่ออกและกล่าวว่า “ทุกคนที่ติดตามฉันและทำงานให้สำเร็จอย่างจริงจังและเหมาะสมจะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทน” เขาชี้ไปที่ไขกระดูกคุนเผิงที่เขาเพิ่งสร้างขึ้น “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น มาหาฉันทีหลังฉันมีอย่างอื่นให้คุณ”

ราชาวัวกุยแสดงความกตัญญู เดอซ้ำแล้วซ้ำเล่าและออกจากที่เกิดเหตุทันที

ในขณะนี้ มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ขี้อายเพียงสองคนต่อหน้า หลินเฟิง และพวกเขาก็จ้องมองไปที่ หลินเฟิง ด้วยสายตาที่ไม่แน่นอน เมื่อพวกเขาเห็น หลินเฟิง หันหน้าไปทางพวกเขา พวกเขาก็คุกเข่าลงทันทีและพูดว่า “ยินดีที่ได้พบครับท่าน”

หลินเฟิงมองดูพวกเขาอย่างเงียบๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาสะบัดนิ้วหนึ่งครั้งและจุดแสงหนึ่งจุดก็บินออกไปและขยายออกไปในท้องฟ้า มันเปลี่ยนบนท้องฟ้าเป็นประตูขนาดยักษ์ และเริ่มลงมาตรงกลางของรูปแบบการทรงสร้างสององค์ประกอบ