จักรพรรดิ์จงเจริญ! - บทที่ 67

บทที่ 67: 63 ครึ่งก้าวจากการขึ้นสู่สวรรค์

ผู้แปล: 549690339

เซียวซีคงจะประสาทหลอน เธอกังวลเกินไป แม้ว่าเธอจะกลับมาเพียงสองวัน แต่ราชาจิ้งจอกดำก็กลับมาแล้ว สิ่งนี้ยังปลุกเร้าความทรงจำอันน่าสะพรึงกลัวของเธอเมื่อ 20 ปีที่แล้วอีกด้วย

บรรพบุรุษเก่าเซียนเนอร์กำลังช่วยเหลือเจ้าหญิงในเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ซาง และบรรพบุรุษเก่าฮุ่ยซินประกาศว่าเขาอยู่อย่างสันโดษในขณะที่เขากลับมาที่กลุ่มเมื่อวานนี้

วันนี้ทูตของราชาจิ้งจอกดำกลับมาอีกครั้ง

ทูตยังเป็นปีศาจจิ้งจอกตัวน้อยจากเผ่าจิ้งจอกเหนือ

อย่างไรก็ตาม เธอจากไปพร้อมกับราชาจิ้งจอกทมิฬเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ตอนนี้เมื่อเธอกลับมาแล้ว พฤติกรรมของเธอก็ชั่วร้ายและสุดโต่ง

“การสังหารกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และเผ่าพันธุ์ปีศาจก็กำลังจะลุกขึ้น เราจะชดใช้ความเจ็บปวดที่มนุษย์สร้างไว้ให้เราด้วยเลือดอย่างแน่นอน! ”

สุนัขจิ้งจอกในหมู่บ้านกล่าวว่า “พวกเขาเป็นเพียงพระภิกษุ ทหาร และลัทธิเต๋าบางคนเท่านั้น

จริงๆแล้วคนดีๆ ในหมู่มนุษย์ยังมีอีกมาก เจ้าหญิงองค์ที่ 9 ของ

มหาชางเก่งมาก เธอยังสอนให้เราอ่านด้วย ”

“เป็นเช่นนั้นเหรอ?”

จิ้งจอกผู้ชั่วร้ายไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่พูดอย่างเย็นชาว่า “” ภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้ที่เชื่อในมนุษย์โดยไม่ตั้งใจจะต้องรับผลที่ตามมา! ”

ดังนั้นเสี่ยวซีจึงตื่นตระหนก เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เธอได้ยินมาว่าจี้ซานจุนกลับมาจากเผ่าเสือแล้ว และต้องการให้ปีศาจเสือรุ่นเยาว์จำนวนมากไปกับเขาด้วย หวังซานจุนปฏิเสธ และทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน

เธอมีเรื่องมากมายอยู่ในใจ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นและเห็น Xia Ji เธอก็รู้สึกโล่งใจด้วยเหตุผลบางอย่าง การนั่งข้างเจ้าชายก็เหมือนกับการนั่งหน้าพระพุทธรูปในพระอุโบสถ หัวใจของเธอรู้สึกสงบมากขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้

Xia Ji ได้แยกแยะแล้ว [Three Lifetimes Buddhist Meditation].

เขาเข้าใจเหตุการณ์หลังจากที่เขาใช้ทักษะและขอบเขตของเขาจนหมด

เขาก้าวไปข้างหน้า และก่อนที่เขาจะขึ้นสู่สวรรค์ เขากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เขาได้เห็นร่องรอยของอาณาจักรอวาคานิยาแล้ว

ร่องรอยความอัศจรรย์ของอาณาจักรอวาคานียะนั้นทำให้เขาสามารถบรรลุโพธิได้ พลังทางจิตวิญญาณอันทรงพลังถูกซ่อนอยู่ในร่างอันเงียบสงบและเล็กของเขา ในทันใดนั้น พระองค์ทรงเปลี่ยนจากความว่างเปล่าไปสู่ความเป็นจริง จากความว่างเปล่าไปสู่ความเป็นจริง จากวิญญาณสู่ร่างกาย มีการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนโลก

ร่างกายเป็นเรือและจิตใจเป็นกระแส ทันใดนั้นทั้งเรือและกระแสน้ำก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเผยให้เห็นพระธรรมกาย

สุดท้ายแล้วรูปธรรมก็เป็นเพียงภาพพจน์

อวตารนั้นมีอยู่จริง

มันเป็นร่างกายของเขา

เป็นพระกายของพระพุทธเจ้าที่ถูกยัดเข้าไปในหนังมนุษย์

อย่างไรก็ตาม พระธรรมกายดังกล่าวใช้พลังงานไปมาก เกือบทุกช่วงเวลา มันจะเผาผลาญพลังชี่และพลังงานทางจิตที่แท้จริงไปจำนวนมาก ดังนั้นจึงสามารถคงอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

นี่เป็นกรอบเวลาที่ปลอดภัย อาจเป็นไปได้ที่จะเกินมันไป แต่ดูเหมือนเป็นการพนัน หากเขายังคงยึดมั่นต่อไป ผลที่ตามมาจะจินตนาการไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่วินาทีก็เพียงพอแล้ว

ในการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ความคิดเดียวสามารถสร้างภูเขาได้ หนึ่งวินาทีมีความคิดมากมายแค่ไหน?

นี่เป็นไพ่ทรัมป์ใหม่ที่เขาได้รับ และเขาสามารถใช้มันเป็น “ระเบิด” ได้อย่างแน่นอน ‘

ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะยังอยู่ในระดับเก้า แต่ในที่สุดเขาก็เข้าใจ

ว่ามี “สิบ” อยู่

เก้าเป็นสิ่งสุดขั้วสำหรับมนุษย์

แม้ว่าเขาจะไม่ถึงระดับ ” สิบ “ หรือแม้แต่เห็น ” สิบ “ แต่เขาก็ยังรู้สึก ” สิบ “ พระธรรมกายนี้เป็นผลผลิตของพระองค์ ยืมมา “สิบ”

ทุกวันหลังจากนั้น Xia Ji จะอ่านหนังสือในใจกลางภาคเหนืออย่างเงียบ ๆ

ปีศาจ

หนังสือเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของมรดกของวิหาร Thunderclap โบราณ พวกเขามีคัมภีร์และเทคนิคการฝึกฝน และมรดกส่วนใหญ่สูญหายไปนานแล้วในแม่น้ำสายยาวแห่งประวัติศาสตร์

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มองเห็นภาพความเจริญรุ่งเรืองในสมัยโบราณได้อย่างคลุมเครือ ซึ่งพระพุทธเจ้าหลายพันองค์มาสักการะ และระยะทางหลายพันไมล์เพื่อแสวงหาพระคัมภีร์

สมัยนั้นวัดเสียงสายฟ้าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาบนเขาพระสุเมรุ ปัจจุบันเป็นเพียงวัดเล็กๆ ที่ได้สืบทอดชื่อมา

เสี่ยวซีส่งอาหารทุกวันซึ่งถือเป็นสาเหตุที่ดี

Xia Ji จะใช้เทคนิค Maitreya Zen เพื่อดูความกลัวและความตื่นตระหนกในใจของเธอ จากนั้นใช้เทคนิค Zen แห่งพลังจิตวิญญาณเพื่อปลอบโยนเธอและทำให้เธอผ่อนคลาย มันเป็นสิ่งที่ดี

บนภูเขาไม่มี Jiazi และฉันไม่รู้ว่าฉันมีชีวิตอยู่มากี่ปีแล้ว เจ้าชายนั่งเงียบ ๆ บนยอดเขา Bixiao และอ่านพระคัมภีร์

ในวันที่ 10 ไม่ใช่เสี่ยวซีเป็นคนส่งอาหารอีกต่อไป แต่เป็นจิ้งจอกที่เรียกว่า “เสี่ยวหลัว”

ฉันไม่รู้ว่าทหารพระค้นพบเสือโคร่งและโจมตีพวกเขาได้อย่างไร ที่นั่นอันตรายมาก เซียวซีค่อนข้างแข็งแกร่งเธอจึงไปช่วย ‘

สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยตัวใหม่มีใบหน้ากลมเล็ก เมื่อเธอพูดใบหน้าของเธอก็แสดงความกลัว

“พระภิกษุมาจากไหน?” เซี่ยจีถาม

“มันคือ Light Monk…พวกมันอยู่ทุกหนทุกแห่ง และพวกมันมาที่นี่เพื่อฆ่าพวกเรา”

ร่างกายของจิ้งจอกน้อยสั่นเทา ยี่สิบปีที่แล้ว มีผู้คนเกือบหมื่นคนในเผ่าของเรา จากนั้นเราก็ต่อสู้กับภิกษุแห่งแสงสว่างเหล่านี้ พวกเขาสังหารเผ่าของเราไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเราจึงซ่อนตัวอยู่บนภูเขา แม้ว่าเราจะออกไปข้างนอกเราก็แอบหลบเลี่ยงและไม่กล้าให้ใครค้นพบการมีอยู่ของเรา ”

“พวกเขาแข็งแกร่งมากเหรอ?”

“ไฟของพระพุทธเจ้ายับยั้งพลังชี่ของปีศาจ เสียงของพระพุทธเจ้าควบคุมวิญญาณของปีศาจ

พวกเขาแค่ต้องสวดมนต์เพื่อข้ามฟากเราเท่านั้น…แต่เราไม่ต้องการที่จะข้ามฟาก”

Xia Ji ถามอีกสักพัก เมื่อรวมกับอาการหลงผิดที่เขาเห็นบนเสี่ยวซีทุกวันนี้ เขาจึงเข้าใจอย่างคร่าว ๆ

พระแห่งแสงหมายถึงพระภิกษุทุกคนที่ออกมาจากวัดใหญ่แสง ไม่มีใครรู้ว่าวิหาร Great Light อยู่ที่ไหน บางคนบอกว่ามันมาจากตะวันตก แต่บางทีมันอาจจะไม่มีเลยก็ได้ พลังที่พระภิกษุเหล่านี้ฝึกฝนเป็นพิเศษในการเอาชนะปีศาจ พวกเขาเดินทางไปทั่วโลกและไม่ได้จำกัดอยู่เพียงทางเหนือ

เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พระแสงเหล่านี้ได้สังหารปีศาจจำนวนมาก ทำให้ปีศาจแตกแยก ปีศาจบางตัวเริ่มเกลียดชังมนุษย์ ขณะที่บางตัวซ่อนตัวอยู่ในภูเขา

คนที่เกลียดมนุษย์คือปีศาจที่นำโดยราชาจิ้งจอกดำและจี้ชานจุน

สิ่งที่ซ่อนตัวลึกลงไปในภูเขาคือปีศาจที่นำโดย Huixin, Hu Xian ‘er และ Wang Shanjun

20 ปีต่อมา การสังหารหมู่ก็จะเกิดขึ้น เพื่อความอยู่รอดจากการสังหารหมู่ เผ่าสุนัขจิ้งจอกและเสือแห่งดินแดนทางเหนือได้ริเริ่มโจมตีและลงทุนในเซี่ยเสี่ยวซู

ในขณะเดียวกัน King Fox King และ Chi Shanjun ก็กลับมาที่เผ่าของพวกเขาในเวลานี้ โดยขอให้ชาวเผ่าติดตามพวกเขาไป

แต่ตอนนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ พระแสงเหล่านี้ได้ค้นพบค่ายใหม่ของเผ่าปีศาจเหนือและเริ่มการโจมตี

เหตุผลที่สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยเหล่านี้กลัวก็เพราะว่าความทรงจำเกี่ยวกับการทำลายล้างเผ่าพันธุ์ครึ่งหนึ่งเมื่อยี่สิบปีที่แล้วยังคงตราตรึงอยู่ในใจของพวกเขา ทำให้พวกเขาหวาดกลัว

Xia Ji ได้เห็นฉากสองสามฉากจากอาการหลงผิดของ Xiao Xi แล้ว ไฟพระพุทธเจ้าเต็มท้องฟ้าและสิ่งมีชีวิตอยู่ในนรก

“ฮุยซินอยู่ไหน” เขาถาม.

“หางที่สองของบรรพบุรุษกำลังจะงอกออกมา” เสี่ยวหลัวกล่าว ” เขายังคงอยู่ในความสันโดษ เขาไม่ถูกรบกวน ”

ราชาจิ้งจอกดำอยู่ที่นี่แล้วเหรอ? จู่ๆ Xia Ji ก็ถาม ” เขาขอให้คุณออกไปกับเขาเหรอ? ”

เสี่ยวหลัวผงะไป “ฝ่าบาททรงทราบได้อย่างไร? ทูตของราชาจิ้งจอกดำกลับมาที่นี่อีกครั้ง เขาบอกว่าสถานที่แห่งนี้ถูกค้นพบแล้วและเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป เราไม่สามารถเชื่อใจผู้คนได้ และมันจะเป็นหายนะหากเราเชื่อใจพวกเขา ออกไปกับพวกเขาดีกว่า ‘

‘ โอ้? ” Xia Ji ยิ้ม คุณได้บอก King Black Fox ว่ามีมนุษย์อีกคนอ่านอยู่บน Jade Cloud Peak หรือไม่? ”

เหตุใดเราจึงทรยศต่อฝ่าพระบาท? เสี่ยวหลัวส่ายหัวอย่างเร่งรีบ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอส่ายหัว เธอก็ไม่แน่ใจ ” ชนเผ่าของเราหลายคนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยความเกลียดชังตั้งแต่ตอนนั้น ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดจากไปพร้อมกับทูตของอาจารย์จิ้งจอกดำแล้ว พวกเขาอาจเปิดเผยของคุณ

ฝ่าบาท. ”

ทันใดนั้น Xia Ji ก็โบกมือให้สุนัขจิ้งจอกตัวน้อย “มาข้างหลังฉัน ‘

เสี่ยวหลัวเปิดเผยสีหน้างุนงง

“พวกเขาอยู่ที่นี่” เซี่ยจีกล่าว

สุนัขจิ้งจอกชื่อเสี่ยวหลัวรีบหันหน้าไปและเห็นร่างที่มีเสน่ห์และชั่วร้ายหลายสิบตัวบนเส้นทางขึ้นภูเขา เธอตกใจมากจนร้องไห้เบาๆ แล้ววิ่งตามหลัง Xia Ji

หลังจากวิ่งตามหลัง Xia Ji เธอก็มองข้ามไหล่ของเจ้าชายและมองเข้าไปในระยะไกล

ผู้หญิงที่ขึ้นมาบนภูเขาสวมชุดแม่ชี ผมยาวของเธอถูกมัดไว้ด้วยผ้าโพกศีรษะสีขาวเหมือนหิมะ ดวงตาของเธอถูกสงวนไว้

อย่างไรก็ตาม เสื้อคลุมที่ปกคลุมร่างกายของเธอนั้นเป็นเสื้อคลุมผ้าไหมสีดำเกือบใส ฟองสีขาวราวกับหิมะด้านในมองเห็นได้จางๆ ด้านหลังผ้าไหมสีดำ

ครึ่งบนของร่างกายของเขาบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่ครึ่งล่างของร่างกายของเขาเต็มไปด้วยตัณหา ผลกระทบของทั้งสองสามารถกระตุ้นความปรารถนาที่ลึกที่สุดในใจของผู้ชายทุกคน

เมื่อเธอเดินเธอมักจะเลิกคิ้วทำให้คนอื่นรู้สึกสงสารเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอยืนอยู่ตรงหน้า Xia Ji ดวงตาของเธอก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นการจ้องมองที่มีเสน่ห์เหมือนจิ้งจอกที่ราวกับน้ำพุที่สามารถเกาหัวใจได้

“ราชาจิ้งจอกดำ!” เสี่ยวหลัวตะโกน

Xia Ji เคยเห็นผู้หญิงคนนี้ในจินตนาการของ Xiao Xi แต่ในจินตนาการนั้น ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สงบเหมือนตอนนี้ เธอนอนอยู่บนพื้นในสภาพที่เสียใจด้วยสีหน้าเจ็บปวด กรงเล็บของเธอจมลงไปในดินขณะที่เธอคร่ำครวญ

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่จิ้งจอกเย้ายวนที่ทางเข้า..”จิ้งจอกน้อย คุณมาที่นี่เพื่อขอให้ฉันช่วยคุณหรือไม่?”