จักรพรรดิ์จงเจริญ! - บทที่ 94

บทที่ 94: 89 ห้าตระกูลขุนนาง หกยุค

ผู้แปล: 549690339

หลังจากพยายามแล้ว เขาก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถดุ Xia Ji ได้อีกต่อไป แม้ว่าเขาจะทำเช่นนั้นเขาก็จะรู้สึกผิด

สำหรับปุถุชน ความรู้สึกผิดเป็นเพียงความรู้สึกผิด แต่สำหรับคนในอาณาจักรที่สิบเช่นพวกเขา มันเป็นอันตรายถึงชีวิต

ความรู้สึกร้ายแรงประเภทนี้อาจไม่ชัดเจนนัก แต่ในช่วงเวลาวิกฤติของการฝึกฝน มันก็จะปรากฏขึ้นและกระตุ้นปีศาจภายใน ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ในกรณีที่ร้ายแรงกว่านี้ มันจะทำให้การฝึกฝนของคน ๆ หนึ่งถดถอยราวกับว่าใครกำลังแล่นทวนกระแสน้ำ

Dorje และ Ku Ming ต่างก็เป็นพระภิกษุที่มีการป้องกันทางจิตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากการป้องกันทางจิตที่แข็งแกร่ง รอยประทับทางจิตในหัวใจจึงไม่สามารถลบออกได้

อย่างไรก็ตาม รอยประทับทางจิตวิญญาณก็ถูกแบ่งออกเป็นขั้นตอนเช่นกัน

ในระยะต่อมา เขาจะต้องเปลี่ยนใจเลื่อมใสเหมือนราชาจิ้งจอกฮุ่ยซินอย่างแน่นอน

ในช่วงแรก เป็นการเทศน์บนแท่นสังเกตการณ์ดวงดาวของเมืองหลวง บรรดานักศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับการ “หว่าน” จะพัฒนาการรับรู้

Dorje และ Ku Ming ต่างก็อยู่ในช่วงเริ่มต้น

Xia Ji เพียงปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้ในใจของพวกเขาที่ไม่สามารถเอาออกได้และถูกกำหนดให้เติบโต

โชคดีที่พระภิกษุทั้งสองตระหนักว่ารอยประทับทางจิตวิญญาณนี้ไม่ใช่วิญญาณชั่วร้าย แต่เป็นวิญญาณของพระพุทธเจ้าที่ชอบธรรม มิฉะนั้นพระทั้งสองจะไม่เชื่อฟังแม้ว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กันจนตายก็ตาม

การปล่อยวางสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของพระภิกษุทั้งสองอย่างแท้จริง

กู่หมิงประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันแล้วพูดว่า ” ฝ่าบาทช่างน่าทึ่งจริงๆ คุณเกิดมาพร้อมกับปัญญาและเดินเหมือนพระพุทธเจ้า คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการโดยไม่ต้องถูกฝุ่นเปื้อน ”

มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน

วันนี้เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่ามีคนเช่นฝ่าพระบาทในโลกนี้

ฉันรู้ด้วยว่าไม่มีบุคคลเช่นฝ่าบาทในโลกนี้

อมิตาภะ”

ราชาล่องหนเหลือบมองกู่หมิง และรู้สึกว่าเพื่อนนักพรตเต๋าคนนี้พูดเก่งมาก พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุผู้ไม่มีเงินทองคนนี้ก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน “บอกฉันเกี่ยวกับตระกูลขุนนางและจักรพรรดิ” Xia Ji กล่าว

“ท่านคิดว่าตระกูลชนชั้นสูงมีอายุเท่าไหร่ฝ่าบาท?” กู่หมิงถอนหายใจและถาม

“ครอบครัวอายุพันปี” เซี่ยจีตอบ

กู่หมิงไม่สามารถตอบได้โดยตรง และไม่สามารถปฏิเสธที่จะตอบได้ ดังนั้นเขาจึงพูดช้าๆ ว่า ‘” ‘พระภิกษุผู้ไม่มีเงินท่านนี้อ่านหนังสือมามากมายและเห็นการแบ่งยุคสมัยที่น่าสนใจ

พันปีใกล้สมัยโบราณ สามพันปีเป็นยุคกลาง

เมื่อสามพันปีที่แล้วเป็นสมัยโบราณ

ประมาณ 15,000 ปีที่แล้วเป็นสมัยโบราณ

เมื่อประมาณ 200,000 ถึง 300,000 ปีก่อน เป็นยุคดึกดำบรรพ์

และในยุคที่ห่างไกลจนไม่อาจย้อนกลับไปได้ ยังมียุคดึกดำบรรพ์อยู่

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน คลื่นซัดทรายไป ดวงดาวก็เหมือนทะเล อย่างไรก็ตาม ก็จะมีทรายกองอยู่บนภูเขาตามสายน้ำแห่งกาลเวลาอยู่เสมอ ในทะเลลึกไม่ว่าจะไม่สั่นไหวแค่ไหนก็ไม่มีใครมองเห็น ‘

หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง พระภิกษุผู้ไม่มีเงินนี้มีชีวิตอยู่เพียงในปัจจุบันเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ของฉัน ฉันไม่รู้ว่าชาติหน้าฉันจะไปที่ไหน ตอนนี้ฉันมีชีวิตอยู่ได้เพียง 20 กว่าปีเท่านั้น การฝึกฝนของฉันหลายอย่างได้มาจากการตรัสรู้

อย่างไรก็ตาม ฉันมักจะชอบอ่านและสำรวจ ฉันมักจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และมีการคาดเดาอยู่ในใจ ถ้าฉันบอกคุณจริงๆคุณคิดว่าฉันรู้มากแค่ไหน?

ใช่ ยังมีความลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเมืองและดินแดน แต่ฉันไม่สามารถบอกคุณได้อีกต่อไป ถ้าฉันบอกคุณฉันอาจได้รับผลของความตายในชีวิตหน้า ถ้าฝ่าบาทยืนกรานที่จะบอกฉัน ฉันก็คงตายเท่านั้น” “คุณเป็นคนฉลาด” Xia Ji กล่าว

“ฉันไม่ฉลาด” กู่หมิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “คนฉลาดตายเร็ว”

Xia Ji เอียงศีรษะและมองไปที่ Dorje

“ฮิฮิฮิ…”

“คิงคองผู้บ้าบิ่นเป็นคนฉลาดจริงๆ”

Dorje รีบพูดว่า ” อย่าพูดว่าพระภิกษุผู้ไม่มีเงินคนนี้ไม่ฉลาด ไม่ว่าฉันจะฉลาดแค่ไหน หัวใจเซนของฉันก็แทบจะพังทลายด้วยคำพูดของคุณฝ่าบาท ฝ่าพระบาททรงเป็นผู้มีปัญญาอันแท้จริง อัศจรรย์! “ทำไมคุณไม่บอกว่าตอนนี้ฉันก็เหมือนกัน” กู่หมิงถาม

“อมิตาภะ”

Xia Ji มองไปที่พระทั้งสองและในที่สุดก็เข้าใจ ไม่มีใครที่ไปถึงระดับหนึ่งจะเป็นคนโง่ หากคุณได้ยินเรื่องโง่ๆ หรือเห็นเรื่องโง่ๆ ก็อย่าแปลกใจหรือจริงจังกับเรื่องนั้น คุณแค่เล่นเป็นใบ้

“วัชระล่องหนสอนอะไรฉันบ้าง” เขาถามอีกครั้ง

Duoji รีบพูดว่า “ฉันไม่กล้า พระภิกษุผู้ไม่มีเงินนี้ก็ได้นำ

Dragon Demon Guide ออกจาก Great Cold Temple ในเขตหิมะตามคำสั่งของพี่ชาย นี่เป็นเพราะองค์ชายที่ห้ามาเชิญฉัน และเหนือฉันคือนางสนมเจิน ผู้เป็นมารดาโดยสายเลือดของเจ้าชายที่ห้า ‘

พระสนมเจินมีนามสกุลคือโจว และชื่อของเธอคือเจิ้น เหตุผลนั้นยิ่งใหญ่มากจน Shixiong ไม่สามารถปฏิเสธได้

ส่วนที่เหลือ พระภิกษุไม่มีเงินองค์นี้ไม่รู้จริงๆ

พระภิกษุอุทิศตนให้กับเซนและไม่ถามคำถามมากเกินไป

พระสงฆ์ไม่โกหก ถ้าจะพูดก็พูดไป ถ้าคุณพูดไม่ได้คุณจะไม่โกหก” Xia Ji คิดถึงห้าตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ได้แก่ Su, Wu, Zhou และ Lu

จากนั้น Zhou Zhen ก็มาจากตระกูล Zhou เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว นางสนมทั้งสี่ก็มีความสอดคล้องกับเจ้าชายและเจ้าหญิงทั้งเก้าไม่ใช่หรือ?

เขาและเซี่ยเสี่ยวซูเป็นตระกูลซู

Gu Chen และ Xia Ji อยู่ในตระกูล Wu

เจ้าชายคนที่ห้าและเจ้าหญิงคนที่แปด Xia Qingxuan เป็นของตระกูล Zhou

เจ้าหญิงคนที่สอง เซี่ยหยุน และเจ้าชายคนที่สามมาจากตระกูลหลู

อดีตเจ้าชายหกมาจากตระกูลเซิน

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของกู่หมิงระหว่างโลกโบราณทั้งหกนั้นคุ้มค่าแก่การไตร่ตรอง

หากขยายไทม์ไลน์ได้ขนาดนี้

ในกรณีนั้น การแข่งขันเก้ามังกรเพื่อชิงทายาทไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่เป็นเป้าหมายเล็กๆ ไม่ถือเป็นเป้าหมายเล็กๆ เลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าไทม์ไลน์ยืดยาวขนาดนั้นได้

มีสิ่งเหล่านี้จริงๆ ที่ฉันไม่รู้ว่าจะยังเรียกว่ามนุษย์ได้หรือไม่

ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ไร้ยางอายอย่างแน่นอน แต่พวกเขาก็ถูกควบคุมไว้

ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือขอบเขต พวกมันอาจถูกจำกัด

ไม่เช่นนั้น โลกมนุษย์ก็จะไม่ใช่ “สันติสุข” แต่เป็นอีกฉากหนึ่ง

นี่เป็นเพราะพวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้ด้วยวิธีอื่น

จิตใจของ Xia Ji รวดเร็ว และเขาก็เติบโตอย่างรวดเร็วในเหตุการณ์ต่อเนื่องเหล่านี้ ในขณะนี้เขาได้คาดเดามากมาย เขามองไปที่พระบุตรแห่งสวรรค์ตรงหน้าและเห็นว่าพระรูปหล่อก็มองเขาอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน

ทั้งสองจ้องมองค่อนข้างลึก เมื่อพวกเขาพบกัน พวกเขาก็รู้คร่าวๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

“คุณว่าอย่างไรเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของมกุฏราชกุมารที่เส้นทางเฟิงหลาง?” เซี่ยจีถามอีกครั้ง

“คำสั่งของจักรพรรดิได้รับการอนุมัติโดยปริยาย” ดอร์เจกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “พระที่น่าสงสารคนนี้เป็นเพียงมีดเท่านั้น”

เซี่ยจีไม่ได้ถามว่า “ครอบครัวไหน” ไม่ว่าในกรณีใด มันน่าจะเป็นหนึ่งในห้าตระกูล แม้ว่าเขาจะรู้ตอนนี้ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ยิ่งกว่านั้นพระรูปหล่อไม่สามารถพูดออกมาดังๆ ได้ เขาไม่สามารถพูดออกมาดังๆ ได้ คงจะโง่ไปถ้าจะถามคำถามว่า ” ปัจจุบันไม่มีค่ามากนัก ”

ปัจจุบันพระภิกษุทั้งสองเป็นเพียงเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกไว้ด้วยรอยประทับแห่งจิตวิญญาณ มันต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าพวกมันจะงอก บานสะพรั่ง และเกิดผล เว้นแต่จะมีใครมาแทนที่เขาด้วยรอยประทับทางจิตวิญญาณที่เหนือกว่าเขามาก อย่างไรก็ตาม เขาจะตระหนักถึงการมาแทนที่นี้

พระทั้งสองนี้ไม่ใช่พระธรรมดา ดังนั้นถ้ากลับไปก็จะตกปลา

หากมีผู้คนในวิหาร Great Light หรือวิหาร Great Han ที่เหนือกว่าเขามาก พวกเขาจะค้นพบ ‘รอยประทับทางจิตวิญญาณ’ และลบมันทิ้ง ขณะนั้นเขาจะวัดความลึกของน้ำในโลกนี้

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของราชาจิ้งจอกฮุ่ยซินเกี่ยวกับ ” การปฏิวัติสามครั้งในโลกแห่งอำนาจ ” ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ” ดอกไม้ที่เรียกว่าโลกกำลังเบ่งบานอย่างช้า ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะ ” ขึ้นสู่ท้องฟ้าในขั้นตอนเดียวและเข้าสู่อาณาจักรที่ไม่ธรรมดา” บางทีเวลายังมาไม่ถึง ดังนั้น ดูเหมือนมีบางอย่างกำลังระงับทุกสิ่งและกดดันเขาลง ป้องกันไม่ให้เขาก้าวจากระดับเก้าไปสู่ระดับที่สิบในก้าวเดียว

ในวันนี้หากเขาไม่อนุญาตก็ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป

“อีกกี่อัน?” จู่ๆ Xia Ji ก็ถามขึ้น

“มาก” กู่หมิงกล่าว

สวรรค์มากมายจาก 20 แห่งสามารถมาได้

“นอกจากนี้ ความล้มเหลวของวัชระและฉันจะทำให้พวกเขาใช้พลังมากยิ่งขึ้น

พลังนี้อาจเป็นเครื่องมือเวทย์มนตร์หรือรูปแบบซวน อะไรก็เกิดขึ้นได้.”

“ฉันรู้. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณกลับไป”

ไม่เป็นไรถ้าฉันแพ้” กู่หมิงกล่าว ” ฉันจะกลับไปที่ Great Light Temple เพื่อฝึกฝนเทคนิค Zen อีกครั้ง ‘

“พระภิกษุผู้สิ้นเนื้อประดาตัวนี้ก็เหมือนกัน ตอนนี้ฉันจะกลับไปที่วิหาร Great Han แล้ว” Dorje กล่าว

“ไปข้างหน้า”

กู่หมิงและดอร์เจมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงปล่อยพวกเขาไป

มันง่ายมาก หากฝ่าบาทไม่สิ้นพระชนม์ พวกเขาคงจะขึ้นเรือไม่ช้าก็เร็ว

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องขอบคุณเขา

พระภิกษุทั้งสองกราบทูลว่า “อมิตาภะ ”

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง Dorje ก็หยิบลูกปัดอธิษฐานสีดำที่เรียกว่า ” Dragon Demon Guide” ออกมา แม้ว่าสิ่งของชิ้นนี้จะมีค่า แต่ฉันจะมอบมันให้กับฝ่าบาท

กู่หมิงคิดว่ามันอาจจะเหมาะสมกว่าที่จะเอาสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณของเขาออกไป ดังนั้นเขาจึงทนกับความอกหักและหยิบดอกบัวไฟออกมา