มอนสเตอร์พาราไดซ์ - บทที่ 562

บทที่ 562: เอฟเฟกต์อันน่าทึ่งของการ์ดโชคร้าย

ผู้แปล: ผู้แก้ไขการแปล EndlessFantasy: การแปล EndlessFantasy

มู่หยุนเทียนโชคไม่ดีนับตั้งแต่เขากลับมาจากเมืองหลวงสีขาว กระถางดอกไม้ล้มลงบนหัวของเขาเมื่อเขาเดินไปตามถนน อิฐก้อนหนึ่งบินเข้ามาหาเขาในขณะที่เขากำลังเดินไปที่ไซต์ก่อสร้าง และเมื่อเขาบินไปเขาก็พบกับนกหลายชนิดและมีขนปกคลุมไปด้วยขี้นก…

พวกนั้นเป็นเพียงผู้เยาว์เท่านั้น สิ่งที่ทำให้เขารำคาญก็คือทุกอย่างที่เขาใช้ในห้องทดลองระเบิด เขายังทำแผลขนาดใหญ่บนมือของเขาเมื่อเขาผ่าศพ เขารู้สึกเบื่อหน่ายจึงกลับไปที่ห้องทำงานเพื่อจัดการเอกสาร แต่เกิดเพลิงไหม้ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เอกสารจำนวนมากของเขาถูกทำลาย และแม้แต่แหวนหัวใจของจักรพรรดิก็ยังใช้งานไม่ได้

“ช่วยโฟกัสกับงานหน่อยได้ไหม! ดูคุณสองสามวันที่ผ่านมานี้ คุณทำให้ห้องทดลองระเบิด 11 ครั้ง ล้อเล่นเหรอ?!” ซือหนานที่มีหนวดเคราสีขาวจ้องมองไปที่มู่เทียนหยุนในสำนักงาน “คุณไม่พอใจกับฉันและตั้งใจจะยุ่งกับฉันจริงๆ!”

“ไม่… ไม่” มู่หยุนเทียนก้มหัวลง เขาไม่รู้ว่าทำไมไม่กี่วันมานี้เขาถึงโชคร้ายขนาดนี้ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร จะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น!

“คุณยังสูญเสียสมบัติกึ่งเทพไปเมื่อไม่กี่วันก่อน บอกฉันมาว่าคุณกำลังจะทำอะไรอีกตอนนี้!” สีหนานจึงดุเขาต่อไป ในแว่นตากรอบทองของเขา มู่หยุนเทียนส่ายหัวขณะที่คิดกับตัวเองว่า “ฉันถูกสาปหรือเปล่า? หากสิ่งนี้ยังคงอยู่ ฉันจะต้องไปหาหมอผี…”

พลังชีวิตเป็นสิ่งมหัศจรรย์ พลังชีวิตบางส่วนจะกลายเป็นพลังชีวิตเชิงลบเมื่อมีผู้หนึ่งเสียชีวิต พลังชีวิตเชิงลบมีคำสาปพิเศษหรือผลร้ายอื่นๆ ติดอยู่ด้วย คนส่วนใหญ่ไม่สามารถมองเห็นคำสาปได้ มีเพียงหมอผีเท่านั้นที่สามารถเห็นและนำมันออกไปได้

มู่หยุนเทียนเริ่มสงสัยว่าเขาถูกสาปหรือเปล่า เนื่องจากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเขาในช่วงสองวันที่ผ่านมา

“โอ้ ใช่แล้ว คุณได้อะไรจากศพทั้งสองเมื่อไม่กี่วันมานี้หรือเปล่า?” ซือหนานเพิ่งจำได้หลังจากดุมู่หยุนเทียนเป็นเวลาสิบนาทีเต็ม

“ฉันพยายามเจาะสมองพวกเขาแล้ว แต่นั่นไม่ได้ผล ทีมงานกำลังคิดหาวิธีอื่นในการถอดรหัสมัน” มู่หยุนเทียนไม่กล้าบอกเขาว่าห้องทดลองถูกไฟไหม้เมื่อสองวันก่อนและเกือบจะทำลายศพทั้งสอง

“เอาล่ะ เนื่องจากเรามีร่างกายอยู่กับเรา เราจึงไม่ต้องรีบถอดรหัสสมองพวกมัน ค่อยๆ ทำอย่างถูกต้อง และอย่าทำให้ร่างกายเสียหาย” สีหนานกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นั่นเสียงอะไร?”

“เสียงอะไร?” มู่หยุนเทียนตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินเสียงกระแทกเช่นกัน เขามีความรู้สึกไม่ดี สัญญาณเตือนดังทั่วทั้งฐาน

“มีฝนดาวตกรอบๆ มหาสมุทรใกล้ฐานของเรา มีอุกกาบาตยักษ์ที่เพิ่งตกลงบนเกาะ Skull เหนือเรา หนึ่งในสามของเกาะถูกทำลาย!” มีประกาศที่น่าตื่นตระหนกมาจากห้องตรวจสอบ

“เกาะหัวกะโหลกถูกทำลายแล้วเหรอ!”

มู่หยุนเทียนและซีหนานตกตะลึง จากนั้นพวกเขาก็อัญเชิญวัตถุโบราณมิติและก้าวเข้าไปในนั้น พวกเขาปรากฏตัวเหนือเกาะ Skull เพื่อดูว่าทางตอนเหนือของเกาะถูกทำลายไปแล้ว อาคารใต้เกาะถูกเปิดเผย ทำให้ทั้งคู่ไม่พอใจ เนื่องจากอาคารนี้ถูกจัดแสดง นั่นหมายความว่ารัฐบาลกลางและองค์กรอื่นๆ อาจค้นพบเกี่ยวกับฐานใต้ดินที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปี

อุกกาบาตยังคงมีฝนตกลงมา บางส่วนมุ่งหน้าไปยังเกาะหัวกะโหลกในขณะที่บางส่วนก็ชนเข้ากับมหาสมุทร ทำให้เกิดคลื่นที่รุนแรง

“ให้ฉันจัดการเรื่องนี้ นำร่างทั้งสองออกไป อย่าปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับศพทั้งสอง!” สีหนานบินขึ้นไปและทำลายอุกกาบาตด้วยเส้นสีดำที่พุ่งออกมาจากสองนิ้วของเขา มู่หยุนเทียนเรียกวัตถุโบราณของเขาออกมาโดยไม่ลังเลและก้าวเข้าไปในนั้น

เมื่อเขากลับมาที่ฐานใต้ทะเล เขาได้กลิ่นบางอย่างกำลังไหม้

“เกิดอะไรขึ้น?” เขาคว้าไม้เท้าที่ตื่นตระหนก

“ฉันคิดว่าแผ่นดินไหวเมื่อกี้ทำให้ตะเกียงหักไปสองสามดวงและไฟลามออกไป หอยทากหลายตัวเข้าไปในเปลือกหอย ดังนั้นกล้องส่วนใหญ่จึงถูกดับลง จนถึงตอนนี้เรายังไม่สามารถหาแหล่งที่มาของไฟได้”

“ไร้ประโยชน์!” มู่หยุนเทียนหักคอของไม้เท้าและรีบไปที่ห้องทดลองที่มีศพอยู่

หัวใจของเขาเต้นรัวเมื่อเห็นควันออกมาจากห้องทดลอง ขณะที่เขาพยายามปลดล็อกประตูด้วยปลายนิ้ว ประตูก็ตอบสนองเพียงการแจ้งเตือนว่าประตูไม่ทำงาน

“เหี้ย!”

มู่หยุนเทียนไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น เขาชกประตูสองครั้ง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นเองที่เขาจำได้ว่าประตูทำจากโลหะพิเศษเพื่อป้องกันการโจรกรรม มันทรงพลังราวกับสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถเปิดออกด้วยความรุนแรงได้

“ท่านครับ ประตูห้องปฏิบัติการไม่ทำงาน มันไม่เปิด” มู่หยุนเทียนต้องขอความช่วยเหลือจากซีหนาน

“ถ้าประตูไม่ทำงาน คุณจะพังกำแพงไม่ได้หรือ? เสียสมองไปแล้วเหรอ?!” สีหนานตะโกน

มู่หยุนเทียนตกตะลึงเมื่อเขารู้ว่าประตูทำจากโลหะ แต่ไม่ใช่ผนัง ขณะที่เขาวางสาย เขาก็เจาะรูบนกำแพงและมีควันลอยออกมาจากผนัง

เขาไม่สนใจควันอีกต่อไปแล้วจึงคลานออกมาจากกำแพง ห้องปฏิบัติการอยู่ในความยุ่งเหยิง ศพถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ หัวใจของมู่หยุนเทียนตกต่ำเมื่อเขาเห็นฉากนั้น เขาดับไฟทันทีและนำไปไว้ในพื้นที่เก็บของโดยไม่ตรวจสอบ เขานำศพออกมาอีกครั้งเพื่อตรวจสอบสภาพของพวกเขาหลังจากที่เขาออกจากห้องทดลองที่ถูกไฟไหม้เท่านั้น

ศพถูกไฟไหม้ และเครื่องดับเพลิงอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการดูเหมือนจะเสียหายก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งทำให้ศพถูกไฟไหม้ มู่หยุนเทียนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรในขณะที่เขามองไปที่หัวศพที่ถูกไฟไหม้จนหมด ทันใดนั้นฐานก็สั่นอีกครั้ง ก่อนที่มู่หยุนเทียนจะทันได้โต้ตอบ เพดานที่อยู่ด้านบนของเขาก็พังทลายลง เขาสามารถหลบเพดานที่ตกลงมาได้ แต่หัวทั้งสองถูกทับจนหมด…

มู่หยุนเทียนตกตะลึง ก่อนหน้านี้ยังมีความหวังที่จะช่วยสมองที่ถูกไฟไหม้ แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เพราะหัวถูกบดขยี้จนหมดสิ้น

“ฉันได้จัดการอุกกาบาตแล้ว แต่ตอนนี้ฐานถูกทำลายแล้ว” มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังมู่หยุนเทียน

เสียงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น

“ศพอยู่ที่ไหน?”

ก่อนที่มู่หยุนเทียนจะตอบสนอง ซีหนานก็เห็นศพทั้งสองที่ถูกไฟไหม้

“อย่าบอกนะว่าร่างทั้งสองนี้คือ…” หัวใจของซีหนานแทบจะหยุดเต้น

“ฉันขอโทษครับท่าน…” มู่หยุนเทียนไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นและเขาอยากจะร้องไห้

สีหนานอารมณ์เสียจนเกินคำบรรยาย