เจตนาดาบของฉันสามารถปรับปรุงได้อย่างไร้ขีดจำกัด - บทที่ 228

บทที่ 228: เพียงสรุปโลกวงปิดทั้งหมด (3)

ผู้แปล: Daoist6fubtiW

ซูหยางเพียงแค่คิดเท่านั้น และดาบอันดุเดือดก็ควบแน่นอยู่ในความว่างเปล่าทีละคน ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ภายในเวลาไม่นาน ต้นไม้หลายสิบต้นก็พังทลายลง

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย Cao Tianle และคนอื่นๆ ตกตะลึง

“ฉันสามารถใช้เทคนิคของฉันได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยมานาเมื่อต้องรับมือกับอสูรหมูสองตัวขั้นกลั่น Qi ฉันไม่คาดหวังถึงปัญหาสำคัญใดๆ” ซูหยางอธิบายสถานการณ์อย่างใจเย็น

“ซูเพื่อน… สถานการณ์ของคุณดูแตกต่างไปจากของเรานิดหน่อย…”

ความคิดของ Cao Tianle ปั่นป่วนอยู่ภายใน มันต่างกันแค่ ‘นิดหน่อย’ เหรอ?

ในความเป็นจริง มันเป็นมากกว่าแค่นิดเดียว!

หลังจากตกใจอยู่ครู่หนึ่ง Cao Tianle ก็ฟื้นคืนความสงบได้อย่างรวดเร็ว หากซูหยางมีความสามารถประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือการสู้รบในเวลากลางคืน มันจะได้เปรียบอย่างมากสำหรับพวกเขา

เขาสามารถมองเห็นแสงริบหรี่ของความหวังที่จะทำลายโลกที่ถูกปิดล้อมนี้

“ซูเพื่อน… มันอาจจะดีกว่าที่จะไม่ใช้คุณลักษณะสายฟ้ากับปีศาจหมู เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายเลือดของหัวใจและแก่นของปีศาจ คุณลองวิธีอื่นได้ไหม”

“โดยธรรมชาติแล้วนั่นไม่ใช่ปัญหา โปรดล่อปีศาจหมูออกมาก่อน”

ซูหยางเห็นด้วยทันที เนื่องจากการใช้เทคนิคดาบที่แตกต่างออกไปเป็นเพียงความคิดของเขา

Cao Tianle พยักหน้าและนำคนของเขาไปสู่การปฏิบัติ

ทุกคนมองไม่เห็น ซูหยางดูเหมือนจะกลายเป็นผู้นำของทั้งทีม

นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาด้วย ในสถานที่ใดๆ ก็มีกฎสากลเกิดขึ้น:

อาจจะทำให้ถูกต้อง

ตราบใดที่คุณมีพลังเพียงพอ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้นำของทีมหรือไม่ก็ตาม คุณก็จะค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

“ฮาร์รัมป์!”

ด้วยเสียงโกรธแค้นจากปีศาจหมู ปีศาจหมูตัวใหญ่พุ่งออกมาจากถ้ำ

ปีศาจหมูตัวนี้มีขนาดเกินสองเมตรแล้ว และชั้นไขมันหนาของมันดูเหมือนเกราะหนัก โดยมีผมสีดำมันวาวพาดอยู่เหนือมัน

หากเป็นผู้ฝึกตนระดับหนึ่งที่กลั่นพลัง Qi ธรรมดา พวกเขาจะไม่มีวันมีโอกาสต่อสู้กับปีศาจหมูตัวนี้

ซูหยางยังสงสัยว่าเทคนิคของขั้นตอนการกลั่นพลังชี่ที่ผู้ฝึกฝนคนหนึ่งสามารถทะลุการป้องกันของปีศาจหมูได้หรือไม่

น่าเสียดายที่ซูหยางไม่ใช่ผู้ฝึกฝนระดับกลั่นพลังชี่ธรรมดาระดับหนึ่ง เมื่อปีศาจหมูปรากฏตัว เขาก็เปิดใช้งานเจตนาดาบของเขาทันทีและเริ่มกำหนดเป้าหมายคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามรายนี้

กระบี่เจตนากระบี่อันไม่หยุดหย่อนปรากฏขึ้นกลางอากาศครั้งแล้วครั้งเล่า พวกมันเฉลี่ยหนึ่งใบมีดต่อวินาที

ปีศาจหมูเพิ่งออกมาคำรามด้วยความโกรธ ภายในเวลาไม่ถึงนาที บาดแผลเลือดมากกว่าสิบบาดแผลก็ปรากฏบนร่างกายของมัน ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสทำให้ปีศาจหมูกลับมามีสติอีกครั้ง โดยไม่ต้องคิดอีกเลยมันก็หันหนี

“คุณอยากวิ่งเหรอ?”

ซูหยางจะไม่ปล่อยให้เหยื่อของเขาหลบหนีไปง่ายๆ เขาไล่ตาม และกระแสดาบเจตจำนงดาบก็ตามมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก

บาดแผลของปีศาจหมูทวีคูณ และไม่ว่าโครงสร้างหรือการป้องกันของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็สามารถถูกตัดให้ตายได้ด้วยใบมีดลมที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านี้เท่านั้น

ในเวลาไม่นาน ปีศาจหมูก็นอนอยู่บนพื้น ร่างใหญ่โตของมันปกคลุมไปด้วยบาดแผลที่เปื้อนเลือดและไม่มีจุดที่ปลอดภัย

ปรากฏการณ์นี้ทำให้ Cao Tianle และคนอื่น ๆ ตกตะลึง

แม้ว่าพวกเขาจะสามารถบรรลุผลสำเร็จภายนอกได้ แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นในโลกที่ปิดล้อม แม้จะมีความแข็งแกร่งในปัจจุบัน หากพวกเขาพยายามใช้เวทมนตร์หนึ่งหรือสองครั้ง มานาของพวกเขาก็จะหมดลง และพวกเขาจะไม่สามารถร่ายเวทย์มนต์ที่สามได้

ในอดีต การพยายามฆ่าปีศาจหมูตัวนี้ไม่เพียงแต่ท้าทายเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องระมัดระวังด้วย เนื่องจากความผิดพลาดเล็กน้อยอาจทำให้ความคืบหน้าของพวกมันหายไปได้

แต่ละครั้งในอดีต พวกเขาคือผู้ที่ถูกปีศาจหมูไล่ล่าไปทั่วภูเขา

ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ปีศาจหมูปรากฏตัวขึ้นเพียงครู่เดียว และมันก็รักษาบาดแผลไว้กว่าสิบบาดแผล ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้

นี่เป็นประสบการณ์ที่ง่ายที่สุดที่พวกเขามีตั้งแต่เข้าสู่โลกปิด

หลังจากจัดการกับปีศาจหมูได้อย่างง่ายดาย กลุ่มก็แยกเลือดหัวใจและแกนอสูรออกจากร่างกาย

สำหรับเนื้อปีศาจของมันนั้น มันมีคุณค่าเพียงเล็กน้อยเนื่องจากพวกมันไม่ต้องการมันเพื่อการฝึกฝน

พวกเขากลับไปที่หมู่บ้านตระกูล Liu อย่างรวดเร็ว โดยที่ Cao Tianle ส่งมอบแกนอสูรและเลือดหัวใจให้กับ Daoist ชราที่ได้รับบาดเจ็บ

ถัดมาใช้เวลาสำรวจฟรีสองชั่วโมง

“ฉันมีเบาะแสบางอย่างที่นี่ เรามาสำรวจด้วยกันไหม” ซูหยางริเริ่มที่จะแนะนำ

สีหน้าของ Cao Tianle ค่อยๆ กลายเป็นเรื่องแปลก

พระเจ้า คุณจะมีเบาะแสได้อย่างไรเมื่อคุณเข้าสู่โลกที่ปิดล้อมนี้? คุณมีเบาะแสอะไรบ้าง?

นอกจากนี้ ซูหยางยังอยู่กับพวกเขามาโดยตลอดและไม่ได้ดำเนินการอย่างอิสระเพื่อค้นหาเบาะแสใดๆ

มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยเหรอ?

อย่างไรก็ตาม ด้วยการแสดงต่างๆ ล่าสุดของซูหยาง พวกเขาตระหนักดีว่าเขาแตกต่างไปจากพวกเขาอย่างมาก พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมซูหยางถึงแตกต่างมาก แต่อาจเป็นเพราะเส้นทางการฝึกฝนของเขา

จนถึงตอนนี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่าเส้นทางการฝึกฝนของซูหยางค่อนข้างแตกต่างจากของพวกเขา และบางทีอาจเป็นเพราะความแตกต่างนี้ที่ซูหยางแสดงความแข็งแกร่งที่ชัดเจนภายในโลกที่ปิดล้อม

ไม่ว่าซูหยางจะมีเบาะแสก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือสำรวจร่วมกับเขาเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง

หลังจากการสำรวจโลกปิดหลายครั้งโดยไม่พบเบาะแสใด ๆ มันก็สมเหตุสมผลที่จะร่วมเดินทางไปกับซูหยางในความพยายามนี้

“เอาล่ะ เนื่องจาก Sufriend มีเบาะแส เราจะสำรวจกับคุณ” Cao Tianle กล่าวเพื่อสรุปการตัดสินใจ

กลุ่มนี้ไม่มีการคัดค้าน และซูหยางก็พาพวกเขาไปสำรวจเส้นกรรมเพิ่มเติมอีกสี่เส้นของหมู่บ้าน