เจตนาดาบของฉันสามารถปรับปรุงได้อย่างไร้ขีดจำกัด - บทที่ 455

บทที่ 455: ชะตากรรมที่ถูกกำหนด (2)

ผู้แปล: Daoist6fubtiW

ผู้ฝึกฝนอมตะและโกลาหลรีบออกไปทันทีหลังจากเห็นสิ่งนี้ ทรัพยากรหายไป ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะอยู่ต่อไม่ได้

พวกเขายังรู้เกี่ยวกับโชคชะตาอีกด้วย ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาได้ฝึกฝนในความโกลาหลมาหลายปี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเทียบได้กับซู่หยาง ชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะคนนี้

หลังจากผ่านไปสักพัก สนามรบก็สงบลงอีกครั้ง

การกระทำของซู่หยางยังคงมั่นคง ด้วยพลังของสกายเน็ต เขาสามารถยึดครองทรัพยากรทั้งหมดในสมรภูมิตาเดียวได้ในครั้งเดียว

ยิ่งกว่านั้นด้วยความสามารถของตาข่ายเหนือกับดักด้านล่างที่จะครอบคลุมรัศมีหลายสิบล้านไมล์ เขาสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของศัตรูและก้าวนำในทุกสิ่ง

เขาได้เอาเปรียบเธอ

วันน้ำขึ้นน้ำลงผ่านไปครึ่งทางแล้ว และถึงเวลาที่ดินแดนกรีนวูดจะปรากฏตัว

ซู่หยางรู้ว่าดินแดนแห่งไม้สีเขียวจะปรากฏขึ้นต่อไป

หากเขาสามารถได้แกนกลางของกรีนวูดแลนด์มาได้ เขาก็จะได้รับคะแนนการสนับสนุน 100,000 คะแนนโดยตรง

คะแนนการสนับสนุน 100,000 แต้มเทียบเท่ากับคริสตัลสีขาวอมตะระดับต่ำ 100 ชิ้น

เมื่อคิดดูแล้ว ทรัพยากรที่สามารถได้รับจากภารกิจนี้ก็มีไม่มากนัก แต่เป็นเพราะว่าซู่หยางดุร้ายเกินไปเท่านั้น

หากเป็นผู้ฝึกฝนในช่วงเริ่มต้นของ Great Dao Realm รางวัลนี้จะถือว่าใจป้ำมาก

ไม่ว่าขาของยุงจะเล็กแค่ไหน มันก็ยังเป็นเนื้ออยู่ดี ถ้ามีโอกาส เขาจะต้องได้แกนของแผ่นดินอย่างแน่นอน

กรีนวู้ด

มันก็เหมือนกับสิ่งที่ได้บันทึกไว้ในข้อมูลนั่นเอง

ดินแดนแห่งไม้สีเขียวจะปรากฏขึ้นทุกครั้งที่วันน้ำขึ้นน้ำลงผ่านไปครึ่งทาง

พลังงานว่างเปล่าสั่นสะเทือน ณ จุดตัดของสามภูมิภาค ทวีปลอยฟ้าปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ในอากาศ

แล้ว…ก็เป็นที่ตั้งของกรีนวูดแลนด์!

กฎหมายสีเขียวล้อมรอบและแยกมันออกจากวัตถุภายนอกทั้งหมด

ก่อนที่ดินแดนแห่งความสุดโต่งจะเปิดขึ้น การคุ้มครองพิเศษจะไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตใด ๆ ไปถึงที่นั่นได้ก่อน

ซู่หยางเดินทางผ่านอวกาศและมาที่นี่เพื่อรอ

ในเวลาเดียวกัน ตัวเลขก็มาถึงทีละตัว

ผู้ที่เข้ามาที่นี่ล้วนอยู่ในระดับกลางของอาณาจักรเต๋าอันยิ่งใหญ่

ท่ามกลางพวกเขา มีผู้ที่เป็นผู้ไม่ตายและผู้ฝึกฝนความโกลาหล

ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นศัตรูกัน แต่พวกเขาจะไม่สู้ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากัน

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูพวกเขาก็จะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นอันดับแรก

เหตุผลที่พวกเขาได้กลายเป็นศัตรูกันก็เพราะการแข่งขันเพื่อทรัพยากรระหว่างสองโลกเช่นกัน

ความเป็นอมตะต้องการที่จะแย่งชิงทรัพยากรแห่งความโกลาหล

ผู้ฝึกฝนความโกลาหลต้องการแย่งชิงทรัพยากรภายใน

ไม่มีใครถูกหรือผิด มันเป็นเพียงการแข่งขันเพื่อทรัพยากร

เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เห็นซู่หยางรออยู่ที่นี่ก่อน พวกเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน

โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตอมตะที่ได้เห็นวิธีการอันเหนือชั้นของซู่หยาง มันแยกตัวออกจากซู่หยางโดยไม่รู้ตัว พวกเขาไม่ต้องการเป็นศัตรูกับซู่หยาง

วิธีการนั้นน่ารังเกียจเกินไป

ตอนนี้ พวกเขาเข้าใจแล้วว่าซู่หยางที่มาที่นี่เพื่อแข่งขันกับพวกเขาเพื่อทรัพยากรนั้นเป็นเพียงอวตารเท่านั้น

มันไม่ใช่ร่างกายหลักของเขา

ต่อให้ฆ่าเขาก็ไร้ประโยชน์

ความเร็วของซู่หยางในการควบแน่นอวตารนั้นเร็วมาก ราวกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาใดๆ

พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขาทำได้อย่างไร

ไม่จำเป็นต้องเข้าใจมากเกินไป

สิ่งเดียวที่พอจะต้องจำไว้คืออย่าไปยั่วพวกเขา

ทั้งนี้ก็เพราะว่าแม้ว่าเขาจะฆ่าอวตารของซู่หยางได้ เขาก็ไม่เพียงแต่จะไม่ได้อะไรเลย แต่โชคของเขายังจะถูกปล้นสะดมอย่างหนักอีกด้วย

พวกเขาไม่อยากพบเจอกับวิธีการสกปรกแบบนั้นอีก

มีเพียงผู้ที่ไม่เคยสัมผัสกับรูปแบบการต่อสู้อันไร้ยางอายของซู่หยางเท่านั้นที่จะไม่สนใจ

ในขณะที่ผู้ฝึกฝนเหล่านี้กำลังสังเกตซู่หยาง ซู่หยางก็กำลังสังเกตพวกเขาเช่นกัน

ซู่หยางมีความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอมตะในระดับหนึ่ง สิ่งมีชีวิตอมตะในพื้นที่นี้จัดอยู่ในกลุ่มเผ่าพันธุ์ตาเดียว

สิ่งมีชีวิตอมตะในโลกภายในถูกแบ่งออกเป็นเผ่าพันธุ์ต่างๆ ซึ่งต่างจากความโกลาหลที่กลุ่มหลักเป็นกลุ่มหลัก

มีอมตะตาเดียวอยู่ 100 ตัวที่นี่ และพวกเขาทั้งหมดอยู่ในระดับกลางของอาณาจักรเต๋าอันยิ่งใหญ่

ผู้ฝึกฝนความโกลาหลก็ไม่ต่างกัน

ซู่หยางวิเคราะห์สักครู่ คนจากกองกำลังชั้นนำทั้งห้าของความโกลาหลต่างก็อยู่ที่นี่

ความวุ่นวายดั้งเดิมของภูมิภาคเหนือ…หอคอยนิรันดร์

Primal Chaos Southern Domain…เผ่าสูงสุด

ภาคตะวันตกอันวุ่นวาย…จุดเริ่มต้นที่แท้จริง

Primal Chaos ภูมิภาคกลาง…ต้นกำเนิด

ภูมิภาคตะวันออกของความโกลาหลดั้งเดิม…ศาลแห่งความโกลาหล

เหล่านี้คือกลุ่มชั้นนำทั้งห้าของความโกลาหลดั้งเดิม

นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกจากกลุ่มชั้นนำบางส่วนที่อยู่ในความโกลาหลดั้งเดิมอีกด้วย

ด้านล่างของกองกำลังบนสุดก็คือกองกำลังที่อยู่บนสุด

ต่ำสุดอยู่ที่ระดับสาม

หลังจากที่คนจากศาลแห่งความโกลาหลมาถึง พวกเขาก็ริเริ่มที่จะเข้าใกล้ซู่หยาง

เนื่องจากซู่หยางมาที่นี่ก่อนในฐานะเพื่อนร่วมค่ายเดียวกัน พวกเขาจึงต้องไปด้วยเป็นธรรมดา

“เด็กดี ฉันได้ยินมาว่าแกยึดครองป้อมปราการกลางป่าและยึดครองดินแดนทั้งหมดได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แกนี่เจ้าเล่ห์จริงๆ นะ จุ๊ๆ…ฉันไม่เคยเจ้าเล่ห์ขนาดนี้มาก่อน”

สมาชิกศาลแห่งความโกลาหลขอบเขตเต๋าอันยิ่งใหญ่ระดับกลางเข้าหาซู่หยางและพูดอย่างกล้าหาญ

“เพื่อนนักเต๋า โปรดอภัยให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าเพียงอาศัยวิธีพิเศษบางประการเท่านั้น”

เซียงเทียนโบกมือ “สหายเต๋าซู เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวเกินไป หากขาดความแข็งแกร่งเพียงพอ วิธีการใดๆ ก็ไร้ประโยชน์ วิธีการใดๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งเช่นกัน”

“อย่างน้อยที่สุด พวกเราไม่มีใครสามารถครอบครองฐานที่มั่นหลักอย่างคุณได้”

“สหายเต๋าเซียงพูดถูก สหายเต๋าซู เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว”

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับกลางขอบเขตเต๋าอันยิ่งใหญ่มารวมตัวกัน

เขาส่งชุดตดสีรุ้งให้กับซู่หยางโดยตรง

ซู่หยางตกตะลึง

โอ้พระเจ้า แม้ว่าการฝึกฝนของเขาจะสูง เขาก็ยังหลีกเลี่ยงฉากเหล่านี้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ถูกต้องแล้ว เมื่อมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ก็ต้องมีมารยาททางสังคมด้วย

หากไม่เป็นเช่นนั้น…ความแตกต่างในสถานะระหว่างทั้งสองฝ่ายก็มีมากเกินไป

ซู่หยางสามารถรับมือกับมันได้ หลังจากพูดคุยกันสักพัก ซู่หยางก็เริ่มคุ้นเคยกับคนเหล่านี้

อย่างน้อยที่สุดเขาก็รู้ชื่อนักเต๋าของอีกฝ่าย

ในศาลแห่งความโกลาหลมีคนอยู่ทั้งหมด 17 คน รวมทั้งเขาด้วย ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป

ด้วยโอกาสนี้ ซู่หยางยังได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมพิเศษของดินแดนกรีนวู้ดด้วย

ประการแรก สภาพแวดล้อมทางนอโมโลยีพิเศษนี้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับนักฝึกฝนที่จะฝึกฝนในความเงียบสงบ

มันเป็นเขตสงวนของกลุ่มใหญ่

ยิ่งมีสภาพแวดล้อมพิเศษดังกล่าวมากขึ้นเท่าใด สมาชิกของเขาสามารถเลือกเส้นทางได้มากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่งที่กลุ่มใหญ่ทุกกลุ่มต้องรวบรวม

ตัวอย่างเช่น ดินแดนกรีนวูดเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับนักเพาะปลูกกฎคุณลักษณะไม้ในการเพาะปลูก

ด้วยการเพิ่มคริสตัลแห่งกฎ คริสตัลอมตะ และอื่นๆ เข้าไป ผลการฝึกฝนก็จะดีขึ้นไปอีก

ความเร็วในการกลั่นทรัพยากรจะเร็วขึ้น แม้ว่าจะไม่มีทรัพยากรก็ตาม เขาก็จะสามารถเข้าใจกฎและเพิ่มความแข็งแกร่งได้ง่ายขึ้น

สำหรับผู้ฝึกฝนทั่วไปแล้ว มันก็ไม่เลวเลย

น่าเสียดาย… สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยซู่หยางเลย

สิ่งเดียวที่ช่วยได้คือต้องเพิ่มคุณค่าให้กับเขา

นอกเหนือจากแต้มการมีส่วนร่วม 100,000 แต้มที่เขาได้รับเป็นรางวัลจากการทำภารกิจสำเร็จ

ซู่หยางยังมีสิทธิ์ที่จะกำหนดราคาดินแดนแห่งกฎหมายนี้ด้วย

ในความเป็นจริง ซู่หยางเพียงต้องนำสถานที่แห่งกฎหมายนี้กลับมายังศาลแห่งความโกลาหลเพื่อรับคะแนนการสนับสนุน 100,000 คะแนน

ในเวลาเดียวกัน ดินแดนแห่งกฎนี้ยังคงเป็นของซู่หยาง

ราคาสามารถกำหนดได้สำหรับสมาชิกของ Chaotic Court และไม่ใช่เฉพาะแต่สมาชิกของ Chaotic Court เท่านั้น

กลุ่มที่สังกัดภายใต้ศาลแห่งความโกลาหลก็สามารถใช้สิ่งนี้ได้เช่นกัน

ตราบใดที่เขาจ่ายราคาตามที่ซู่หยางกำหนดไว้ก็ไม่มีปัญหา

อาจกล่าวได้ว่าเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่

ในอนาคตมันจะส่งผลให้ Su Yang มีคะแนนสนับสนุนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งนี้ยังตอบข้อสงสัยมากมายของซู่หยางอีกด้วย

ไม่แปลกใจเลยที่รางวัลสำหรับภารกิจดูเหมือนจะไม่มากมาย…กลายเป็นว่าเขาได้รับมันมาโดยไม่ได้อะไรเลย

โดยการร่วมสนับสนุนศาลแห่งความโกลาหล เขาจะสามารถได้รับรางวัลโดยตรง

ไม่เลวเลย

ส่งผลให้ซู่หยางสนใจแกนกลางของดินแดนกรีนวู้ดมากขึ้น

อาจไม่สามารถให้ทรัพยากรมากมายแก่เขาได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ถูกสะสมไว้ทั้งสิ้น

เมื่อเขารวบรวมที่ดินทางโนโมโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต แล้ว… โดยธรรมชาติแล้ว ผลประโยชน์ที่เขาได้รับก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ที่สำคัญที่สุด มันเป็นกระบวนการต่อเนื่อง

มันไม่ใช่ข้อตกลงเพียงครั้งเดียว

หลังจากรอสักพักก็มีร่างคุ้นเคยปรากฏตัวขึ้น

ท่านผู้มีอายุยืนยาว!

เมื่อซู่หยางเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม เขาก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลของทุกคน

แม้ว่าพระผู้มีอายุยืนยาวจะอยู่ที่ขอบเขตเต๋าอันยิ่งใหญ่กลางขั้น แต่เขาก็ยังคงอยู่ในขั้นกลาง

เขาได้มาถึงขีดจำกัดของอาณาจักรนี้แล้ว

เขาเพียงแค่ต้องสะสมไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง อีกก้าวเดียวเขาก็จะถึงขอบเขตเต๋าอันยิ่งใหญ่ขั้นปลายแล้ว

พระผู้มีอายุยืนยาวเป็นผู้ฝึกฝนร่างกายเต๋าที่ได้ผสานกฎทั้งเจ็ดไว้ด้วยกัน

ขณะนี้ เขาเข้าถึงโหนดโนโมโลยีขั้นที่ 2 จำนวน 700 โหนดแล้ว

โหนดกฎขั้นที่สองไม่ใช่สิ่งที่โหนดกฎขั้นที่หนึ่งสามารถเปรียบเทียบได้

พูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือ แม้ว่าซู่หยางจะเสียสละตนเอง เขาก็อาจไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์อายุยืนได้

ในอาณาจักรของเขาในปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะต่างกันเพียงเล็กน้อย…มันก็เหมือนกับพระราชวังสวรรค์

ซู่หยางสามารถพึ่งพาความพิเศษของเขาเพื่อสร้างปัญหาให้กับผู้ฝึกฝนในขอบเขตเต๋าใหญ่ขั้นกลางด้วย Maxim เพียงครั้งเดียว เขาถือว่าแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว

ซู่หยางไม่ได้ท้อถอย… เขาเพิ่งก้าวเข้ามาในอาณาจักรนี้และเพิ่งจะเริ่มต้นสะสมการฝึกฝนของเขา

หลังจากช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อกฎเกณฑ์ทางโนโมโลยีทั้ง 3,000 ข้อของเขากลับสู่ตำแหน่งเดิม โหนดทางโนโมโลยีขั้นแรกทั้งหมดก็จะสว่างขึ้น

แม้แต่พระผู้มีอายุยืนยาวก็ยังต่อสู้กับเขาได้!