แบ่งปันพรสวรรค์ของสัตว์ที่เชื่องเพื่อชีวิตนิรันดร์ - บทที่ 58

บทที่ 58: สง่างามและเรียบง่าย

ผู้แปล: ผู้แก้ไขการแปล EndlessFantasy: การแปล EndlessFantasy

เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินคำพูดของ Yang Yuan พวกเขาก็แสดงสีหน้าแตกต่างออกไป

“ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ อยู่ข้างในในตอนนี้ เราเข้าไปดูกันเถอะ” เจิ้งเสี่ยวหลิงมองไปที่เหอชิงเกอและซูซีเหม่ย

ทุกคนพยักหน้าและเข้ามาพร้อมกัน พวกเขาทั้งสามยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มนักศิลปะการต่อสู้กลุ่มนี้ มีนักศิลปะการต่อสู้อยู่ข้างหน้าและข้างหลังพวกเขา

หากมีอันตรายใดๆ ก็จะเผื่อเวลาไว้ให้พวกเขา

ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในประตูทองสัมฤทธิ์ วิสัยทัศน์ของพวกเขาก็เปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับที่ Yang Yun อธิบาย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่บนผนัง

ดวงตาของเหอชิงเกอเป็นประกายในขณะที่เขาจ้องมองภาพจิตรกรรมฝาผนัง ไม่กล้าที่จะทำผิดพลาดแม้แต่น้อย

วงล้อศักดิ์สิทธิ์คัมภีร์แห่งปัญญาในใจของเขากำลังส่องแสง

[Great Wisdom Scripture: Can increase wisdom, comprehension, soul, and thinking.]

มุมมองของเหอชิงเกอแตกต่างจากคนอื่นๆ มาก สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่จิตรกรรมฝาผนังที่แข็งกระด้าง

ภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมดเริ่มเคลื่อนไหว

มนุษย์ที่อ่อนแอไม่มีที่ยืนในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่

สัตว์สูงและดุร้ายกินมนุษย์ วิญญาณผู้พิทักษ์ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ตกเป็นทาสของมนุษย์ และเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนที่ทรงพลังอย่างไม่มีใครเทียบได้ใช้มนุษย์เป็นเหยื่อ…

สภาพความเป็นอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์อาจกล่าวได้ว่าอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ทรมาน

เผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกกดขี่โดยเผ่าพันธุ์อื่นนับพัน นักปราชญ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อเลียนแบบเผ่าพันธุ์อื่นรุ่นแล้วรุ่นเล่า และเปิดวิธีการฝึกฝนที่เป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์

ภาพจิตรกรรมฝาผนังชิ้นแรกเป็นภาพมนุษย์หนีออกจากปากของสัตว์ร้ายยักษ์ในขณะที่เรียนรู้ข้อดีของสัตว์ยักษ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างร่างกายของพวกเขา

เหอชิงเกอมองไปที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังทีละภาพ และภาพจิตรกรรมฝาผนังการเคลื่อนไหวทุกประเภทก็ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ

มันเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาวิธีการเพาะปลูกโดยปราชญ์ของมนุษย์ และวิธีการพัฒนาอย่างช้าๆ

ร่างกายของเหอชิงเกอติดตามการเคลื่อนไหวบนผนังโดยไม่รู้ตัว

ดวงตาของซู ซีเหม่ยหรี่ลงขณะที่เธอเตือนคนอื่นๆ อย่าเข้าใกล้ เธอปกป้องเหอชิงเกอเป็นการส่วนตัว

คนที่พิถีพิถันมากขึ้นบางคนจ้องมองการเคลื่อนไหวต่างๆ ของเหอชิงเกอ และพยายามจดจำพวกเขาไว้ในใจ

มีแม้กระทั่งบางคนที่เริ่มเลียนแบบการเคลื่อนไหวของ He Qingge

น่าเสียดายที่วิธีการฝึกฝนขั้นต้นของพวกเขานั้นโดยพื้นฐานแล้วตื้นและอ่อนแอ

ซู่ซีเหม่ยและเจิ้งเสี่ยวหลิงไม่ได้สนใจคนอื่นๆ มากนัก เป้าหมายหลักของพวกเขาคือเหอชิงเกอ

หลังจากนั้นไม่นาน การเคลื่อนไหวของ He Qingge ก็น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

การเคลื่อนไหวของเขาไม่หยาบเหมือนตอนเริ่มต้น และพวกมันก็ประสานกันมากขึ้น

หลังจากนั้น ในขณะที่การเคลื่อนไหวต่างๆ ยังคงสมบูรณ์แบบ ศิลปะการต่อสู้ที่เหอชิงเกอพัฒนาก็มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ

ร่างกายของเหอชิงเกอเคลื่อนไหวสม่ำเสมอมาก รวมถึงอาการสั่นของกล้ามเนื้อหายใจ การประสานงานของร่างกาย และการไหลเวียนของเลือดและชี่ของเขา

สมรรถภาพทางกายของเขาดีขึ้นอย่างช้าๆ และไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าใดก่อนที่เหอชิงเกอจะตื่นขึ้นมาเต็มที่

เหอชิงเกอที่ตื่นขึ้นมา รู้สึกราวกับว่าส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาได้รับการปลดปล่อย มันสดชื่นมาก

เขารู้สึกถึงพลังของเลือดและ Qi ในร่างกายของเขา เลือดของเขาเหมือนปรอท ไขกระดูกของเขาเหมือนน้ำค้างแข็ง เลือดและ Qi ของเขาเหมือนมังกร และร่างกายของเขาเหมือนหม้อขนาดใหญ่

อสูรเทพ Martial Dao!

ในที่สุดเหอชิงเกอก็เข้าใจสิ่งที่บันทึกไว้บนจิตรกรรมฝาผนัง

พวกมันคือวิธีการฝึกฝน Dao ของ Fiendgod Martial Dao ขั้นพื้นฐาน

น่าเสียดายที่ตอนนี้มันเป็นงานศิลปะที่สูญหายไปแล้ว

มันเป็นบรรพบุรุษของศิลปะการต่อสู้ แต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังไม่ได้อธิบายสาเหตุของการเสื่อมถอย

พวกเขาเดินไปตามทางและมาถึงลานกว้าง

[Life-and-death battle arena]

[The winner lives, the loser dies!]

หินโบราณขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นใต้เวที มีข้อความสลักอยู่บนนั้น ส่งกลิ่นจางๆ ของเลือดสัตว์ร้ายออกมา

แม้ว่าพวกเขาจะอ่านคำโบราณเหล่านี้ไม่ได้ แต่พวกเขาก็เข้าใจความหมายได้

สิ่งนี้เกินขอบเขตที่นักศิลปะการต่อสู้ควรจะมีแล้ว นักศิลปะการต่อสู้ที่เข้ามารวมกันค่อนข้างตื่นเต้น ราวกับว่าพวกเขาสามารถมองเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าพวกเขา

พวกเขาไม่ได้ถูกบังคับให้ขึ้นไปบนเวที

เหอชิงเกอชี้ไปที่ยามสองคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ “คุณสองคนขึ้นไปบนสนามประลอง ”

‘อะไร?!”

การแสดงออกของคนทั้งสองที่มีจิตใจสูงแต่เดิมเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน คำอธิบายของอารีน่าถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน

เวทีตัดสินชีวิตและความตาย ซึ่งหมายความว่าอย่างน้อยจะต้องมีคนตายบนสนามนั้น

เหอชิงเกอยิ้มอย่างใจดี ดูสง่างามและเป็นกันเอง “ฉันเป็นคนเข้ากับคนง่ายมาก ในเมื่อคุณไม่เต็มใจ ฉันจึงให้คุณเลือกได้

“ขั้นแรก ขึ้นไปและแข่งขันโดยสมัครใจ อย่างที่สอง ฉันจะฆ่าคุณสองคนตอนนี้ แน่นอนคุณสามารถพยายามต่อสู้กลับได้เช่นกัน นักศิลปะการต่อสู้ทุกท่านสามารถขึ้นมาฆ่าฉันด้วยกันได้”

การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เลือดในร่างกายของพวกเขายังคงลุกไหม้ขณะที่พวกเขากำหมัดแน่น

พวกเขาต้องการต่อย He Qingge จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ทำได้เพียงก้มหัวอย่างเชื่อฟังและเดินเข้าไปในสนามประลองด้วยกัน อย่างน้อยที่สุด หนึ่งในสองคนก็จะออกมามีชีวิต

สำหรับการต่อต้านไม่ใช่เรื่องตลก

หากพวกเขาต่อสู้ร่วมกันกับเหอชิงเกอจริงๆ พวกเขาจะไม่มีโอกาสชนะ พลังแห่งความอมตะได้รับการถ่ายทอดผ่านเรื่องราวทุกประเภท และตำนานก็ฝังลึกอยู่ในหัวใจของพวกเขา

“จูเนียร์ ความกดดันที่คุณปล่อยออกมานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ” ซู ซีเหม่ยพูดเบาๆ

“ฉันแค่กลัวความตาย” เหอชิงเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ให้พวกเขาทดสอบสิ่งต่างๆ ให้เราก่อน”

หลังจากที่ยามทั้งสองก้าวเข้าสู่ที่เกิดเหตุ บริเวณโดยรอบสนามกีฬา

ถูกปิดผนึกทันที

นักศิลปะการต่อสู้ทั้งสองมองหน้ากันและปกป้องกันและกันอย่างระมัดระวัง กลัวว่าพวกเขาจะตายโดยไม่มีสถานที่ฝังศพหากพวกเขาไม่ระวัง

การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งระหว่างคนทั้งสองไม่ได้ใหญ่เกินไป

หลังจากแลกเปลี่ยนกันร้อยกระบวนท่า หนึ่งในนั้นแสดงอาการเหนื่อยล้า และคู่ต่อสู้ก็พบจุดอ่อนของเขาทันที

หมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังแห่งแก่นโลหิตถูกทุบออกไป เขาต้องการตัดสินผู้ชนะและกำจัดคู่ต่อสู้ของเขาในกระบวนท่าเดียว

คนที่มีอาการเหนื่อยล้าก็ตอบสนองทันที เขาขยับเท้าเล็กน้อยและหลบหมัด มุมปากของเขาโค้งงอเล็กน้อยในขณะที่เขาตอบโต้การโจมตีทันที เขาผลักด้วยมือทั้งสองข้างและทุบหน้าอกของคนที่ต่อยแตก

การแตกของอวัยวะภายในทำให้เลือดไหลออกจากร่างกายทันที และเขาหายใจไม่ออก

การต่อสู้สิ้นสุดลงในทันที

เลือดกระเซ็นบนลานประลองอันกว้างใหญ่

ความเหนื่อยล้าและความอ่อนแอที่ผู้คุมเปิดเผยเมื่อกี้นั้นเป็นความตั้งใจโดยสมบูรณ์

ในไม่ช้า การ์ดที่ชนะการแข่งขันก็ปรากฏตัวขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของเวที โดยมองดูเหอชิงเกอและคนอื่น ๆ จากระยะไกล

“อมตะ ฉันจะช่วยคุณสำรวจเส้นทางข้างหน้าก่อน” นักศิลปะการต่อสู้ Wang Siyao จากไปอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

เขาไม่ได้รอคำตอบของเหอชิงเกอและซูซีเหม่ยด้วยซ้ำ

เหอชิงเกอเยาะเย้ย เขาจะปล่อยให้ชายคนนี้มีชีวิตอยู่อีกสักพักเพื่อที่เขาจะได้ช่วยพวกเขาสำรวจถนนข้างหน้า

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้เจตจำนงทางจิตวิญญาณของเขาเพื่อสังเกตสถานการณ์ภายในจากภายนอกได้ เขาก็จะไม่ถูกจำกัดเช่นนี้เมื่อหวังซื่อเหยาเข้ามาข้างใน

เหอชิงเกอได้แนบสัมผัสแห่งสวรรค์เข้ากับร่างกายของหวังซื่อเหยาแล้ว มันไม่ง่ายเลยสำหรับเขาที่จะหลบหนี

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีผีเสื้อแสนสวยห้อยอยู่บนหลังเสื้อผ้าของหวังสิเหยา—ผีเสื้อรวบรวมเสียง

การต่อสู้ในสนามประลองดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่มนุษย์เท่านั้น

ตอนนี้สองคนที่ยืนอยู่บนเวทีได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษจากเหอชิงเกอ พวกเขาไม่ได้ถูกสุ่มเลือก

พวกเขาทั้งสองอ่อนแอกว่าลิลบัตเตอร์ฟลาย แม้ว่ายังมีการต่อสู้อยู่ในสนามประลอง แต่ลิล บัตเตอร์ฟลายก็สามารถจัดการพวกมันได้

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าลิล บัตเตอร์ฟลายจะผ่านไปโดยตรง

ในไม่ช้า เหอชิงเกอ, ซูซี่เหม่ย และเจิ้งเสี่ยวหลิงก็เลือกคนของตัวเองที่จะต่อสู้

พวกเขาชนะการแข่งขันโดยไม่มีเซอร์ไพรส์ใดๆ

เหอชิงเกอครุ่นคิด ดูเหมือนว่าการประเมินของ Fiendgod Martial Dao ไม่ได้ยกเว้นผู้ฝึกฝน

อย่างไรก็ตาม การประเมินรอบแรกนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาจริงๆ

นอกเหนือจากพวกเขา Lin Yan, Chen Wushuang และคนอื่น ๆ ก็ผ่านการประเมินเช่นกัน

เหอชิงเกอมีความคิดคร่าวๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้าผ่านสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาและข้อมูลที่ส่งผ่านโดยผีเสื้อรวบรวมเสียง