อาณาจักรของพระเจ้า - บทที่ 374

บทที่ 374 – อันตราย

ผู้แปล: นายโวลแตร์

บรรณาธิการ: Modlawls123

ในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอย่างเอาจริงเอาจังเกี่ยวกับตัวแทน จ่าวฟู่ก็สั่งให้ทุกคนเริ่มสร้างห้องประชุม ห้องประชุมจะสามารถรองรับคนได้หลายพันคน ซึ่งจะใช้สำหรับการประชุมกับตัวแทน เมื่อประชากรของต้าฉินเพิ่มขึ้น จำนวนตัวแทนก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ห้องประชุมจะเป็นสถานที่หลักในการแสดงความคิดเห็นของผู้คน และพวกเขาจะจัดการประชุมปีละครั้ง อย่างไรก็ตาม จ่าวฟู่ไม่มีเวลาจัดการประชุมเหล่านี้ตลอดเวลา

ในขณะที่การก่อสร้างห้องประชุมและการเลือกตัวแทนดำเนินไป จ้าวฟู่ก็หันความสนใจไปที่เรื่องต่อไป ซึ่งก็คือเกษตรกรรมของต้าฉิน

ขณะนี้ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และใบไม้สีเขียวก็ค่อยๆ หายไป อุณหภูมิค่อยๆ เย็นลง และไม่มีความร้อนในฤดูร้อนอีกต่อไป ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยว

เนื่องจากสถิติของเมือง Great Qin ทุกอย่างจึงเติบโตเร็วขึ้นมาก แต่เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะได้โบนัสพิเศษมากมาย เช่น สิ่งของต่างๆ มากมายที่มีรสชาติดีขึ้นและหวานขึ้น

ตัวอย่างเช่น ผลไม้ส่วนใหญ่จะมีรสชาติหวานกว่า และเมล็ดพืชก็จะอ้วนกว่าและมีรสชาติเข้มข้นกว่า
จ่าวฟู่เดินทางไปที่เขตเกษตรกรรมและเห็นผู้คนจำนวนมากกำลังเก็บเกี่ยวธัญพืชหรือเก็บผลไม้ การเก็บผลไม้เป็นเรื่องง่ายมาก พวกเขาเพียงแค่เด็ดผลไม้จากต้นแล้วใส่ลงในตะกร้าก่อนจะขนออกไป

วิธีนี้ค่อนข้างง่ายและไม่ต้องใช้ทักษะมากนัก และมีประสิทธิภาพดี อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเมล็ดพืชนั้นแตกต่างกัน

ทั้งนี้เนื่องจากเมล็ดข้าวใช้กรรมวิธีที่ค่อนข้างดั้งเดิมในการตีกิ่งข้าวจนทำให้เมล็ดข้าวแก่ร่วงหล่น

นี่เป็นสิ่งที่ล้าสมัยและไม่มีประสิทธิภาพ ต้องใช้เวลาและความพยายามมากเกินไป เมื่อเห็นเช่นนี้ จ่าวฟู่ก็คิดถึงเครื่องมือที่เขาเคยเห็นเมื่อตอนที่เขายังเด็กสำหรับเก็บเกี่ยวเมล็ดพืช

มันเป็นเครื่องมือที่มีขนาดเท่ากับเตียง และทำมาจากไม้และเหล็กเป็นหลัก ผู้คนเหยียบไม้กระดานที่กลิ้งไปมาเพื่อตีกิ่งข้าวอยู่ตลอดเวลา

เครื่องมือประเภทนี้ยังค่อนข้างเป็นแบบดั้งเดิมในโลกยุคใหม่ เนื่องจากทุกอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงทำโดยใช้เครื่องจักร ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก

แน่นอนว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างเครื่องจักรดังกล่าวใน Heaven Awaken World ในตอนนี้ ดังนั้น Zhao Fu จึงอยากใช้เครื่องมือไม้ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการสร้าง
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว จ่าวฟู่ก็กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงและเริ่มค้นหาวิธีการเก็บเกี่ยวธัญพืช และเขาก็พบวิธีการต่างๆ อย่างรวดเร็ว

จ่าวฟู่ใช้เวลาสักพักในการจดจำวิธีการต่างๆ แต่ทันทีที่เขากำลังจะกลับไปยังโลกแห่งการตื่นสวรรค์ ก็มีคนมาเคาะประตูบ้านเขาแล้วถามว่า “คุณจ่าว คุณตื่นหรือยัง”

นี่คือบอดี้การ์ดของจ่าวฟู่ และจ่าวฟู่รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเสียงของเขา โดยปกติแล้วจ่าวฟู่มักจะเป็นคนโทรหาเขาเป็นคนแรกเสมอ เพราะเขาหิวโหยเสมอหลังจากกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง และเขามักจะขอให้บอดี้การ์ดซื้ออาหารให้เขา มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“เข้ามาสิ!” จ้าวฟู่ตอบ และบอดี้การ์ดก็เดินเข้าไป “คุณจ้าว มีบางอย่างที่ฉันได้รับคำสั่งให้บอกคุณ”

“มันคืออะไร” จ่าวฟู่ถาม

“ตระกูลหยิงประกาศว่าใครก็ตามที่เป็นสมาชิกตระกูลหยิง ไม่ว่าจะเป็นคนในตระกูลหลัก ตระกูลสาขา หรือตระกูลรอง จะต้องเข้าร่วมการประชุม ใครก็ตามที่ไม่เข้าร่วมจะถูกลงโทษอย่างหนัก” บอดี้การ์ดตอบ

“ประชุมเหรอ? ทุกคนต้องเข้าร่วมเหรอ?” จ่าวฟู่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายนัก จึงถามว่า “การประชุมครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร”
บอดี้การ์ดคิดสักครู่ก่อนจะตอบว่า “ฉันได้ยินมาว่ามันเพื่อตรวจสอบชะตากรรมของแต่ละคน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ่าวฟู่ก็รู้สึกตกใจมาก – เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เพื่อให้ตระกูลหยิงตรวจสอบชะตากรรมของทุกคน อาจเป็นไปได้ว่าเขาถูกเปิดโปงหรือไม่? เขาไม่มีอะไรต้องปกปิดชะตากรรมของเขาในโลกแห่งความเป็นจริง และผู้เชี่ยวชาญจะต้องรู้แน่ชัดว่าเขาคือผู้รับมรดกของจ้าวฉิน!

“ฉันควรทำอย่างไร” จ่าวฟู่คิดอย่างรวดเร็วขณะที่เขาถาม “การประชุมครั้งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

“7 โมงเช้าของวันพรุ่งนี้ครับ!” บอดี้การ์ดตอบ

จ่าวฟู่พยักหน้าและขอให้บอดี้การ์ดของเขาออกไปก่อนที่เขาจะคิดถึงสถานการณ์อันตรายนี้ เนื่องจากตระกูลหยิงกำลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ จ่าวฟู่จึงรู้สึกถูกคุกคามอย่างมาก

ผู้บังคับบัญชาของตระกูลหยิงได้สั่งไว้แล้วว่าใครก็ตามที่ไม่ไปจะถูกลงโทษอย่างหนัก และถ้าเขาไม่ไป จะถือว่าน่าสงสัยเกินไป

อย่างไรก็ตาม เขาจะทำอะไรได้หากเขาไป? เขาไม่มีอะไรต้องปกปิดชะตากรรมของเขา และพวกเขาก็จะตรวจสอบชะตากรรมของเขาเป็นหลัก

พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน และเมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผย ก็เป็นไปได้ที่ตระกูลหยิงจะฆ่าเขาและยึดมรดกของเขาไป และเขาจะไม่มีอำนาจที่จะตอบโต้ ด้วยความเลือดเย็นของตระกูลใหญ่เหล่านี้ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขาจากไป และแม้แต่ปู่และย่าของเขาอาจจะต้องตาย
“ฉันควรทำอย่างไรดี ฉันควรทำอย่างไรดี” จ่าวฟู่รู้สึกกังวลใจมาก และเขารู้ว่าสถานการณ์นี้ค่อนข้างอันตรายสำหรับเขา หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจกดหมายเลข

จ่าวฟู่กดหมายเลขค้างไว้ครู่หนึ่ง และทันทีที่เขากำลังจะวางสาย สายก็เชื่อมต่อทันที

“สวัสดี” เสียงหญิงสาวสวยสง่าที่จ่าวฟู่คุ้นเคยดังขึ้น – เป็นเสียงของเซียนรู่

จ่าวฝู่รู้สึกโล่งใจมากและตอบว่า “เป็นฉันเอง!”

เซียนรู่ฟังดูประหลาดใจมากเมื่อเธอกล่าวว่า “ฝ่าบาท มีอะไรหรือ?”

เมื่อไม่นานมานี้ จ่าวฟู่ได้ขอเบอร์ของเซียนรู่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถติดต่อเธอในโลกแห่งความเป็นจริงได้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยโทรหาเธอในโลกแห่งความเป็นจริงมาก่อน เพราะเขาอ่อนแอเกินไปและต้องระมัดระวังมาก

ในที่สุดก็ได้เวลาโทรไป เขาเล่าสถานการณ์ให้เซียนรู่ฟังและหวังว่าเธอจะมีวิธีจัดการกับเรื่องนี้

“ฝ่าบาท ข้าพเจ้าเชื่อว่าเป้าหมายของการพบปะครั้งนี้คือพระองค์ จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่คุ้นเคยกับโชคชะตาอย่างแน่นอน ดังนั้นแม้ว่าพระองค์จะใช้ไอเทมเพื่อปกปิดโชคชะตาของตน พวกเขาก็จะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและสามารถค้นพบพระองค์ได้”
หลังจากได้ยินคำพูดของ Xianru แล้ว Zhao Fu ก็รู้สึกประหลาดใจมาก – ถ้าแม้แต่สิ่งของที่ปกปิดชะตากรรมของเขาได้ก็ไร้ประโยชน์ เขาก็ต้องวิ่งหนีงั้นเหรอ อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง เขาแทบจะไม่มีอะไรเลย – เขาจะอยู่รอดและหลบหนีจากตระกูล Ying ได้จริงหรือ? เป็นไปได้มากที่สุดว่าไม่

โชคดีที่ Xianru พูดต่อ “ฝ่าบาท ข้าพเจ้าสามารถใช้ไอเทมเทคนิคเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของท่านให้เป็นชะตากรรมของคนธรรมดาชั่วคราวได้ วิธีนี้ท่านจะไม่ถูกเปิดเผย”

อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือพวกเขาอยู่คนละที่ในโลกแห่งความเป็นจริง แล้วพวกเขาจะช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว การประชุมคือเวลา 7.00 น. ของวันถัดไป