อาณาจักรของพระเจ้า - บทที่ 376

บทที่ 376 – สายเลือดราชวงศ์ฉิน

ผู้แปล: นายโวลแตร์

บรรณาธิการ: Modlawls123

“ไปกันเถอะ!” พวกเขามาถึงจุดนัดพบ และหวู่ชิงเหนียงก็กลับมามีบุคลิกสง่างามและสง่างามอีกครั้ง เธอวางแขนไว้รอบแขนของจ้าวฟู่ขณะที่พวกเขาเดินไปหากลุ่มคน

สวนแห่งนี้กว้างขวางมาก และมีคนมารวมตัวกันที่นี่มากกว่า 10,000 คน โชคดีที่สวนแห่งนี้ใหญ่โตมาก ไม่เช่นนั้นคงมีคนมารวมตัวกันมาก

ด้วยการที่ Wu Qingniang กอด Zhao Fu ไว้อย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจจากหลายๆ คน

อันดับความงามโบราณดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมาย และเมื่ออยู่ในอันดับที่สาม หวู่ชิงเหนียงก็มีชื่อเสียงมาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลักของตระกูลหยิง ตระกูลสาขา หรือตระกูลรอง ทุกคนต่างต้องการเห็นรูปลักษณ์และอุปนิสัยที่สวยงามของเธอด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่าเธอกำลังคบหาอยู่กับชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ดูหล่อเหลาเพียงเล็กน้อย ทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉาและเคียดแค้นอย่างยิ่ง

หยิงซีก็รู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นน้องสาวคนดีของเธออุ้มจ่าวฟู่ไว้ ซึ่งเธอไม่คิดว่าหวู่ชิงเหนียงจะปฏิบัติต่อจ่าวฟู่เหมือนเป็นหมากรุกสำคัญหรือเพื่อนเท่านั้น
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ Wu Qingniang คิดเกี่ยวกับ Zhao Fu จะเกินกว่าสิ่งที่เธอคาดหวังไว้มาก

เมื่อเธอคิดถึงความสนิทสนมระหว่างเธอกับหวู่ชิงเหนียงเมื่อก่อน และเห็นว่าตอนนี้เธอมีความผูกพันกับจ่าวฝูมากแค่ไหน หยิงซีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

นายน้อยของหนึ่งในสาขาอื่นของตระกูลหยิง ชายหนุ่มรูปงามนามหยิงฉิน เห็นสิ่งนี้และเกลียดจ่าวฟู่ เขาติดตามหวู่ชิงเหนียงมาโดยตลอด ไม่เพียงเพื่อเธอเท่านั้น แต่ยังเพื่อกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังเธอด้วย

อย่างไรก็ตาม หวู่ชิงเหนียงมักจะปฏิบัติกับเขาอย่างไม่แยแส เขาคิดว่าเธอหยิ่งเกินไป ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ไล่ตามเธอ แต่ถึงกระนั้น เธอกลับเดินจูงแขนกับผู้ชายอีกคน

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การจัดเลี้ยงอะไรสักอย่าง และเธอไม่จำเป็นต้องมีคู่หูผู้ชาย นั่นหมายถึงว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับชายหนุ่มคนนั้นมาก

มีอีกคนหนึ่งที่มองมาอย่างเย็นชา และคนๆ นั้นก็คือหยิงอู่ ผู้รับมรดกปลอมของต้าฉิน ตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งแรก เขาคิดถึงหวู่ชิงเหนียงและซู่หยูหยานเป็นผู้หญิงของเขา

ในส่วนของซู่ ยู่หยาน เขาไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก ซู่ ยู่หยานไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยตรง และเธอก็ไม่ได้แสดงความรักใดๆ เลย ในส่วนของหวู่ ชิงเหนียง เขาไม่ได้มีความคืบหน้าใดๆ เพราะเธอไม่ได้ปิดบังการปฏิเสธของเธอเลย
เมื่อเห็นว่าหวู่ชิงเหนียงดูสนิทสนมกับจ่าวฟู่มากเพียงใด หยิงหวู่ก็รู้สึกโกรธมาก หลังจากงานเลี้ยงครั้งแรก หยิงหวู่ได้ขอให้คนบางคนสอบสวนเขา

จากการสืบสวนเหล่านี้ เขาพบว่าจ่าวฟู่เป็นเพียงสมาชิกครอบครัวรองและไม่มีสถานะใดๆ เลย เขาสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงละเลยการมีอยู่ของจ่าวฟู่และคิดว่าหวู่ชิงเนียงมองเขาเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นฉากนี้ต่อหน้าเขา

หยิงอู่จะไม่รู้สึกโกรธเคืองได้อย่างไรเมื่อเห็นผู้หญิงที่เขาต้องการแสดงความรักกับผู้ชายคนอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงมากมาย แต่ไม่มีใครเทียบได้กับซู่หยูหยานและหวู่ชิงเหนียง

ในขณะนั้น ลูกพี่ลูกน้องของจ้าวฟู่เห็นดังนั้นก็พูดว่า “คุณปู่ ดูตรงนั้นสิ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปู่ของจ่าวฟู่และคนอื่นๆ ในครอบครัวก็หันมามอง เมื่อเห็นเช่นนี้ รอยยิ้มแห่งความยินดีก็ปรากฏบนใบหน้าของยายของจ่าวฟู่ หากจ่าวฟู่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้ได้ เขาคงโชคดีอย่างเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาได้ยินคนแถวนั้นเริ่มพูดถึงสถานะของ Wu Qingniang พวกเขาก็เริ่มดูเป็นกังวลว่า Zhao Fu จะสามารถเทียบชั้นกับภูมิหลังอันทรงเกียรติเช่นนี้ได้อย่างไร?

ป้าของจ่าวฟู่กล่าวว่า “ควรบอกจ่าวฟู่ให้ห่างจากเธอ เธออยู่สูงเกินไปเหนือบุคคลเล็กๆ อย่างพวกเรา หากเขาไปขัดใจบุคคลสำคัญๆ บางอย่าง มันจะไม่ดีสำหรับเขา และพวกเราอาจได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน”
สมาชิกในครอบครัวของจ่าวฟู่หลายคนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และปู่ของจ่าวฟู่ก็ตะโกนอย่างโกรธ ๆ ว่า “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าใครเป็นคนช่วยลูกชายทั้งสองของคุณไว้ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าของจ่าวฟู่ก็เงียบไป

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมองมากมาย จ่าวฝู่ก็รู้สึกไม่สบายใจนักและพูดว่า “ชิงเหนียง คุณปล่อยไปได้ไหม”

หวู่ชิงเนียงกลอกตาขณะกล่าวว่า “คุณรู้ไหมว่ามีคนจำนวนเท่าไรที่อยากอยู่ในตำแหน่งของคุณแต่ไม่มีโอกาส”

จ่าวฟู่หัวเราะเบาๆ “แน่นอนอยู่แล้ว คุณเป็นสาวสวยอันดับสามในการจัดอันดับสาวงามโบราณ และมีคนนับไม่ถ้วนที่ใฝ่ฝันถึงสิ่งนี้”

เมื่อเธอได้ยินจ่าวฟู่ หวู่ชิงเนียงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม และเมื่อเห็นว่าจ่าวฟู่ดูไม่สบายใจจริงๆ เธอก็ตัดสินใจที่จะปล่อยไป

“ชิงเหนียง! มาทางนี้!” หยิงซีตะโกนออกมา

หวู่ชิงเนียงเดินเข้าไปคุยกับเธอ และเนื่องจากสถานะของจ้าวฝู่ค่อนข้างต่ำ เขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่กับบุคคลระดับสูงเช่นนั้น

จ่าวฟู่ไม่สนใจและตัดสินใจไปยังจุดที่ไม่เด่นชัดเพื่อหลีกเลี่ยงการจ้องมองใดๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาก็ถูกใครบางคนผลัก ทำให้เขาสะดุดและเกือบจะล้มลง และมีเสียงเยาะเย้ยกล่าวว่า “จะดีที่สุดถ้าเธอปล่อยให้คุณหนูใหญ่หวู่อยู่คนเดียว เธอไม่รู้หรือไงว่าเธอต่ำต้อยแค่ไหน?”

จ่าวฟู่สูดลมหายใจเข้าและระงับความโกรธของเขาขณะมองดูชายหนุ่มสองสามคน เขาไม่ได้พูดอะไรและหาจุดที่เงียบสงบเพื่อคิดว่าเขาจะผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร

หลังจากนั้น จ่าวฟู่เห็นคนประมาณ 30 คนสวมชุดเต๋าและถือไม้ปัดหางม้าเดินออกมาจากด้านข้าง คนในตระกูลหยิงปฏิบัติต่อเต๋าเหล่านี้อย่างสุภาพมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นคนพิเศษมาก

จ่าวฟู่เริ่มรู้สึกระแวดระวังมากขึ้น และมีคนเริ่มประกาศกฎเกณฑ์ว่าการประชุมครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างไร ครอบครัวหลักจะขึ้นไปเป็นกลุ่มละ 3 คนเพื่อให้นักเต๋าดูชะตากรรมของพวกเขา ครอบครัวสาขาจะขึ้นไปเป็นกลุ่มละ 20 คน และครอบครัวรองจะขึ้นไปเป็นกลุ่มละ 100 คน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เนื่องจากจ่าวฟู่เป็นคนจากตระกูลรอง เขาจึงหวังว่าเขาคงสามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน

แน่นอนว่าคนจากตระกูลหลักไปก่อน และพวกเขาคือคุณชายและคุณหญิงของสาขาหลักของตระกูลหยิง: ชายสี่คนและหญิงสองคน

ลัทธิเต๋าจำนวนประมาณ 30 คนนั้น ผู้นำคือลัทธิเต๋าที่มีเครายาว และเขาก็คือชิวเฟิงจื่อ

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดย Qiu Fengzi และเมื่อมองเผินๆ ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการแสวงหาผู้มีความสามารถสำหรับตระกูล Ying แต่ที่จริงแล้ว เป็นการแสวงหาผู้รับมรดกของ Great Qin ต่างหาก
นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าผู้สืบทอดของต้าฉินอยู่ในตระกูลหยิง ชิวเฟิงจื่อก็พยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามหาเขา ดังนั้น ครั้งนี้เขาจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวและตามหาเขาให้ได้

ตระกูลหยิงค่อนข้างยอมรับความคิดของชิวเฟิงจื่อและสนับสนุนเขาอย่างมาก เป็นเพราะการมองดูโชคชะตาของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย การมองดูโชคชะตาของคนธรรมดาก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การมองดูโชคชะตาของใครสักคนที่มาจากภูมิหลังอันสูงส่งอาจต้องแลกมาด้วยอายุขัย

คนแรกที่ขึ้นไปคือหยิงฉิน และทุกคนเฝ้าดูขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าชิวเฟิงจื่อ

หากไม่ใช่เพราะการมีอยู่ของผู้รับมรดกของราชวงศ์ฉินหยิง หยิงฉินคงกลายเป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลหยิงอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสถานะหรือพรสวรรค์ของเขา เขาคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ยิ่งกว่านั้น สายเลือดราชวงศ์ฉินหยิงที่เขามีก็บริสุทธิ์ที่สุดเช่นกัน