อาณาจักรของพระเจ้า - บทที่ 384

ตอนที่ 384 – เป็นที่รู้จักทั่วโลก

ผู้แปล: นายโวลแตร์

บรรณาธิการ: Modlawls123

จากตระกูลใหญ่ๆ มากมาย ตระกูลที่ตอบสนองได้ดีที่สุดก็คือตระกูลหลี่ ผู้นำตระกูลหลี่ผู้เฒ่าโกรธจัดและทุบหมัดลงบนโต๊ะข้างๆ เขา – ครั้งนี้เขาคำนวณผิดอย่างสิ้นเชิง

เขาไม่เคยคิดว่าจ่าวฟู่จะเติบโตได้ถึงขนาดนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะกลายเป็นผู้นำตระกูลหยิงเท่านั้น แต่เขายังเป็นตัวแทนของผู้รับมรดกของต้าฉินอีกด้วย ตอนนี้เขามีอำนาจในการตัดสินใจในนามของผู้รับมรดกของต้าฉินในโลกแห่งความเป็นจริง

สิ่งที่ผู้เฒ่าของตระกูลหลี่ไม่สามารถเชื่อได้ก็คือ จ่าวฟู่มีชะตากรรมเหมือนราชา ซึ่งหมายความว่ามีแนวโน้มว่าจ่าวฟู่จะกลายเป็นราชาในอนาคต

“เราควรจะฆ่าเขาให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เพราะการเลี้ยงดูเสือนั้นย่อมนำมาซึ่งหายนะ” ผู้เฒ่าผู้แก่ของตระกูลหลี่กล่าวขณะกัดฟันด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง

หลี่ไป่ชิงยืนอยู่ข้างๆ และดูจริงจังอย่างเหลือเชื่อ เขายังประเมินจ่าวฟู่ต่ำเกินไปมากด้วย ใครจะคิดว่าจ่าวฟู่จะมีชะตากรรมเดียวกับราชาเช่นเดียวกับเขาและกลายมาเป็นตัวแทนของผู้รับมรดกของต้าฉิน ตอนนี้ นอกเหนือจากผู้รับมรดกของต้าฉินแล้ว จ่าวฟู่ก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลหลี่แล้ว

หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งดูวิตกกังวลมาก เธอถอนหายใจและพูดว่า “เมื่อก่อน ฉันเคยบอกพวกคุณทุกคนว่าอย่าปฏิบัติกับแม่และลูกคนนั้นแบบนั้น แต่ไม่มีใครฟังเลย ถ้าเขาเข้าร่วมตระกูลหลี่ เขาคงช่วยพวกเราได้มาก!”
ปรมาจารย์อาวุโสของตระกูลหลี่พูดเสียงเย็นชาและเขาก็รู้สึกว่าเขาคิดผิดและพูดว่า “เมื่อเรื่องกลายเป็นแบบนี้ เราก็ต้องคิดว่าจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ใช้พลังของตระกูลหยิงได้เท่านั้น แต่เขายังใช้พลังของผู้รับมรดกของต้าฉินได้อีกด้วย เขาเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงสำหรับพวกเรา”

หลี่เจ๋อพูดอย่างไม่สนใจ “คิดหาวิธีที่จะฆ่าไอ้สารเลวนั่นให้เร็วที่สุดเถอะ เราไม่สามารถปล่อยให้มันเติบโตต่อไปได้!”

“ฮึ่ม! คุณคิดว่าฉันไม่รู้ว่าไอ้ขยะที่รู้จักแต่การกินและดื่มงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะว่านายให้กำเนิดหลานที่ดีให้ฉัน ฉันคงไล่นายออกไปนานแล้ว” ผู้เฒ่าผู้แก่ของตระกูลหลี่รู้สึกโกรธทุกครั้งที่เขาเห็นหลี่เจ๋อ เพราะเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากเขาเอง

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่ไป่ชิงก็พูดในที่สุดว่า “เอาล่ะ คุณปู่ โปรดอย่าโกรธพ่อของฉันเลย สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องแล้ว เราต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อฆ่าเขา ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์จะเลวร้ายในอนาคต

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้นำตระกูลตัวแทนของตระกูลหยิงแล้ว เรื่องนี้จะยากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับผู้รับมรดกของตระกูลฉินด้วย ตระกูลหลี่จำเป็นต้องแน่ใจว่าจะคิดถึงระยะยาวด้วยเช่นกัน!”

ผู้เฒ่าผู้แก่แห่งตระกูลหลี่พยักหน้าและเริ่มพูดคุยกับคนอื่นๆ
เมื่อกลุ่มอื่นๆ ได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตระกูลหยิง พวกเขาก็รู้สึกตกใจอย่างมากเช่นกัน พวกเขาคิดว่าผู้รับมรดกของต้าฉินไม่ได้กลับมาที่ตระกูลหยิงเลยตลอดเวลานี้เพราะเขาเกลียดตระกูลหยิง ใครจะคิดว่าเขาปลูกฝังใครบางคนไว้ในตระกูลหยิงมานานแล้ว และคอยเฝ้าสังเกตตระกูลหยิงอย่างลับๆ

ผู้นำของกลุ่มต่างๆ มากมายได้ส่งคนไปสืบสวนจ้าวฟู่ แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากจะเอาเรื่องนี้ไปสอบสวนอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ตระกูลหยิงเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ใหญ่ที่สุด และอำนาจที่พวกเขามีก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันได้ เมื่อรวมกับความจริงที่ว่าจ่าวฟู่เป็นตัวแทนของผู้รับมรดกของต้าฉิน เขาก็กลายเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งไปแล้ว ตอนนี้ ชื่อของจ่าวฟู่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเกือบหมด

–

ภายในห้อง หลี่หวู่รู้สึกสับสนอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น เขาถูกคนสองสามคนพามาที่นี่ และเขายังคงไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนช่วยเขาไว้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นร่างที่คุ้นเคย ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลสำหรับเขา

–

เมื่อกลับมาที่ตระกูลหยิง ตอนนี้จ่าวฟู่กลายเป็นผู้นำตระกูลตัวแทนแล้ว เขาถูกย้ายไปยังบริเวณวิลล่าที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และตอนนี้มีบอดี้การ์ดประมาณสิบคนคอยคุ้มกันเขา จ่าวฟู่ยังคงเก็บบอดี้การ์ดของเขาไว้ตั้งแต่ก่อน เพราะเขาคุ้นเคยกับบอดี้การ์ดคนนี้เป็นอย่างดีแล้ว

หลังจากที่จ่าวฟู่กลายเป็นผู้นำตระกูลตัวแทน บ้านพักของเขาได้รับการเยี่ยมเยียนจากผู้คนมากมาย แต่จ่าวฟู่ปฏิเสธการเยี่ยมเยียนทั้งหมด เรื่องนี้กินเวลาของเขาไปมาก และเขาจึงกลับสู่โลกสวรรค์ที่ตื่นรู้อย่างรวดเร็ว
หลังจากกลับมาถึงโลกสวรรค์ตื่นแล้ว ทหารคนหนึ่งได้มารายงานว่าพวกเขาจับสิ่งมีชีวิตประเภทราชาได้ห้าตัว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของจ่าวฟู่ และเขาเดินพร้อมกับทหารไปยังพื้นที่เปิดซึ่งมีสิ่งมีชีวิตห้าตัวอยู่ในกรงไม้

มีราชาไก่ป่าที่มีปีกกว้างสองเมตร ราชาแพะภูเขาที่สูงกว่ามนุษย์ ราชาควายที่ดูทรงพลัง ราชางูน้ำยาวแปดหรือเก้าเมตร และราชาสุนัขป่าที่ดูดุร้าย

เมื่อเห็นสัตว์ทั้งห้าตัวนี้ จ่าวฟู่ก็หยิบมงกุฎของราชาออกมาและโบกมือ ส่งแสงดาบห้าลำพุ่งทะลุหัวของพวกมัน สัตว์ทั้งห้าตัวตายลงทันทีและล้มลงในกรงไม้

เส้นด้ายสีแดงเลือดที่ดูเหมือนคริสตัลจำนวนห้าเส้นหลุดออกจากซากศพของสิ่งมีชีวิตทั้งห้าตัว และเส้นด้ายเหล่านั้นก็ถูกดูดซับเข้าไปในมงกุฎของกษัตริย์ ทำให้พลังของมันฟื้นคืนมาเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ดรอปไอเทมสองชิ้น: หนึ่งคือหินสร้างเมืองระดับเงิน และอีกหนึ่งคือรูปปั้นขนาดเล็ก

รูปปั้นนี้ดูเหมือนเด็กน้อยและดูสมจริงมาก มีความยาวประมาณนิ้วและดูเหมือนจะทำจากหยก นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อยเมื่อสัมผัส

เด็กชายสมบัติมากมาย: สิ่งของลึกลับ เด็กชายสมบัติมากมายจะถามคำถามคุณ และถ้าคุณตอบถูก เด็กชายสมบัติมากมายจะมอบของขวัญให้กับคุณ
ไอเทมชิ้นนี้น่าสนใจทีเดียว จ่าวฟู่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจใช้มัน เสียงของเด็กชายที่อยากรู้อยากเห็นก็พูดขึ้นว่า “ห้องแบบไหนที่ไม่มีประตูหรือหน้าต่าง?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ่าวฝู่รู้สึกว่ามันฟังดูเหมือนปริศนา และตอบอย่างไม่แน่ใจ “เห็ดเหรอ?”

“ยินดีด้วย คุณตอบถูก! นี่คือของขวัญสำหรับคุณ!” เสียงของเด็กชายพูดอย่างตื่นเต้น

รูปปั้นกลายเป็นทรงกลมแสงสีขาว ซึ่งเผยให้เห็นกระดาษเครื่องรางสีดำหลังจากแสงนั้นหายไป

เครื่องรางติดตาม: เครื่องรางประเภทหนึ่งที่ล็อคออร่าของบุคคลและทำให้สามารถเทเลพอร์ตไปใกล้ๆ บุคคลนั้นได้ทันที

จ่าวฟู่รู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้ดูเครื่องรางนี้ หากใครไม่ใช้เครื่องรางนี้ให้เป็นประโยชน์ ก็คงจะใช้มันเพื่อติดตามคนอื่นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากใช้ให้เป็นประโยชน์ก็จะเกิดประโยชน์มหาศาล

จ่าวฟู่เคยต้องการหาผู้สืบทอดอีกคนมาโดยตลอดเพื่อกำจัดเขาเสียก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้มีอำนาจ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหาหมู่บ้านของผู้สืบทอดได้ ด้วยเครื่องรางนี้ จะสามารถหาหมู่บ้านของผู้สืบทอดอีกคนได้
ด้วยเหตุนี้ Zhao Fu จึงโทรหา Guo Binglin

ภายในดินแดนที่จ่าวฝู่ต้องการอ้างสิทธิ์ มีผู้สืบทอดห้าคนที่พวกเขารู้จัก และสี่คนในจำนวนนั้นเคยเป็นศัตรูกับจักรพรรดิจิ๋นซี ได้แก่ รัฐเว่ยในช่วงสงครามรัฐ ราชอาณาจักรฉีจากสิบหกอาณาจักร ต่อมาคือรัฐโจวจากห้าราชวงศ์สิบอาณาจักร จักรพรรดิจิ๋นซี ซึ่งก่อตั้งโดยหลี่จื่อเฉิงในช่วงปลายราชวงศ์หมิง และรัฐเจิ้ง ซึ่งก่อตั้งโดยหวางซื่อจงในช่วงปลายราชวงศ์สุย

จากผู้สืบทอดทั้งห้าคน เกรทชุนเสียชีวิตไปแล้ว และยังเหลืออีกสี่คน จ่าวฟู่โทรหากัวปิงหลินและขอให้เขารายงานข้อมูลที่พวกเขามีเกี่ยวกับผู้สืบทอดทั้งสี่คน ในท้ายที่สุด จ่าวฟู่ก็เลือกรัฐเว่ย