เจ้าแห่งมหาสมุทรนั้นทรงพลังอย่างผิดปกติ - บทที่ 44

บทที่ 44: ชนเผ่าพื้นเมือง วีรบุรุษผู้มุ่งมั่น

ผู้แปล: บรรณาธิการแปลเรือมังกร: แปลเรือมังกร

การรวบรวมทรัพยากรและการค้นหาโคโบลด์ที่กระจัดกระจายนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น จี้เฉินจึงตัดสินใจทิ้งพวกโจรสลัดไว้เบื้องหลัง

เขาสั่งให้พวกเขารวบรวมทรัพยากรและเฝ้าดูพวกโคโบลด์ในขณะที่เขานำพวกเมอร์ล็อค นักรบนากา และพิกซี่ทะเลออกไป

วัตถุประสงค์ของพวกเขาคือการแสวงหาความจงรักภักดีจากชนเผ่าพื้นเมือง

เหตุผลที่นำพลังอันมหาศาลมานั้นเป็นเรื่องง่าย แม้ว่าระบบจะมอบหมายภารกิจให้พวกเขาแล้ว แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าชนเผ่าพื้นเมืองจะยอมแพ้อย่างแท้จริง มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาตั้งใจจะใช้ความแข็งแกร่งของ Ji Chen เพื่อทำให้ชนเผ่า Kobold อ่อนแอลงอย่างรุนแรง โดยใช้เขาเป็นเบี้ยในแผนการของพวกเขาเอง

ดังนั้นการนำกำลังอันมหาศาลเข้ามาจึงเป็นมาตรการป้องกันไว้ก่อน

ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการข่มขู่ พวกเขาจะข่มขู่ ในกรณีที่จำเป็นต้องฆ่า พวกเขาจะฆ่า

ชนเผ่าพื้นเมืองที่ติดตามจี้เฉินอย่างใกล้ชิด ได้เห็นกระบวนการทั้งหมดของเขาในการพิชิตเผ่าโคโบลด์

เมื่อเห็น Kobolds ที่เคยผลักเผ่าของตนให้ถอยกลับถูกทำให้อ่อนแอและไม่สำคัญในมือของ Ji Chen จนถึงขั้นตัวสั่นด้วยความกลัวและคลานแทบเท้าของเขา กระตุ้นให้เกิดคลื่นความโกลาหลแห่งความประหลาดใจและความเคารพในตัวพวกเขา

ไม่นานหลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง คนในเผ่าก็พูดขึ้นด้วยความสมัครใจ

“ท่านครับ ให้ฉันแนะนำคุณไปยังเผ่าของเรา”

กลุ่มนี้ออกมาจากถ้ำอันมืดมิดอันชื้นแฉะ

ทิ้งพื้นที่ภูเขาไว้เบื้องหลัง พวกเขามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและเข้าสู่บริเวณหุบเขากลางของเกาะ

แม่น้ำกว้างใหญ่ไหลไปทางทิศตะวันตก ทำให้เกิดที่ราบลุ่มแม่น้ำที่ราบทั้งสองด้าน

หญ้าเขียวขจีปกคลุมทั่วทั้งแผ่นดิน ขณะที่ต้นไม้กระจัดกระจายกระจัดกระจาย

สัตว์หลายชนิดพบที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้

เมื่อสังเกตภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์และราบเรียบ ความคิดก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในใจของจีเฉิน

พวกเขาสามารถปลูกฝังอะไรบางอย่างที่นี่ได้ไหม?

แม้ว่าปัจจุบันดินแดนจะมีอาหารเพียงพอ แต่ก็ยังมีสัตว์และสัตว์ป่ามากมายบนเกาะ และยังมีปลาป่ามากมายในทะเล

อย่างไรก็ตาม ทรัพยากรทั้งหมดเหล่านี้จัดอยู่ในหมวดหมู่การล่าสัตว์

การล่าสัตว์โดยธรรมชาติแล้วเกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนและความไม่มั่นคง เนื่องจากมีความเป็นไปได้เสมอที่ทรัพยากรจะหมดลงในวันหนึ่ง

หากพวกเขาสามารถเพาะปลูกพื้นที่ที่คล้ายกับการประมงปลากะพงขาวซึ่งสามารถผลิตอาหารได้อย่างมีเสถียรภาพก็คงจะเหมาะ

จีเฉินติดตามชนเผ่าพื้นเมืองผ่านที่ราบหุบเขาริมแม่น้ำ โดยมองดูบริเวณโดยรอบอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ป่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ

สำหรับเขา ป่าแห่งนี้เป็นดินแดนที่ไม่คุ้นเคยเลย

ชนเผ่าพื้นเมืองไม่หยุดหย่อนและนำทางไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออย่างมั่นใจ

หลังจากผ่านไปประมาณสี่สิบนาที…

ป่าทึบหยุดกะทันหัน และภาพเบื้องหน้าเขาก็ชัดเจนขึ้น

ป่าทึบปิดทางทันที เผยให้เห็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขาคือป่าไม้ขนาดใหญ่ที่เติบโตในทะเลลึกหลายเมตร

เช่นเดียวกับรูปปั้นสูงตระหง่าน ต้นไม้ขนาดมหึมาเหล่านี้มีความสูงถึงหลายร้อยเมตร และต้องใช้คนมากกว่าสิบคนเพื่อล้อมต้นไม้เหล่านั้นให้เต็ม ความยิ่งใหญ่ของพวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้

และใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่

สิ่งที่ทำให้จีเฉินประหลาดใจคือสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของคนพื้นเมือง

ระหว่างต้นไม้ใหญ่ พวกเขาสร้างบ้านมุงจากลอยน้ำ ยึดไว้กับต้นไม้ด้วยเชือกที่ทำจากเถาวัลย์

พวกเขาใช้ไม้ เถาวัลย์ และเส้นใยเพื่อสร้างทางน้ำที่ช่วยให้สามารถเดินเรือระหว่างบ้านมุงจากและผืนดินได้อย่างอิสระ

เนื่องจากร่มไม้หนาทึบของต้นไม้ใหญ่ น้ำฝนจึงไม่สามารถซึมเข้าไปได้ จึงเป็นที่กำบังลมและฝนตามธรรมชาติ

วิธีการอยู่อาศัยแบบใหม่นี้ทำให้เขาหลงใหลในทันที

ขณะที่เขาสังเกตเห็น ชนพื้นเมืองกลุ่มใหญ่โผล่ออกมาจากทิศทางต่างๆ นำโดยหญิงชราคนหนึ่งที่ประดับด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชามานิกและผมหงอก พวกเขาเข้าหาจีเฉิน

ชาวพื้นเมืองชื่อเสือดำเดินตามเขามา

หญิงชราก้าวไปข้างหน้าและนำชาวพื้นเมืองคนอื่นๆ โค้งคำนับด้วยความเคารพ

“ท่านลอร์ด ยินดีต้อนรับสู่เผ่าของเรา”

“เราได้เรียนรู้จาก Panther แล้วว่าคุณได้พิชิตเผ่า Kobold แล้ว เราจะรักษาสัญญาของเราและจะเป็นอาสาสมัครของคุณ”

จี้เฉินพยักหน้าเล็กน้อยและให้พวกเขาลุกขึ้นยืน

“ติ๊ง ~ ภารกิจ: [Enemies of Generations] สมบูรณ์.”

‘ติ๊ง! ชนเผ่าพื้นเมืองได้เลือกที่จะปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อคุณ!

หน้าจอกระพริบต่อหน้าต่อตาเขา

เมื่อคิดได้ แผงอาณาเขตก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

ในคอลัมน์ของวิชา จำนวนมนุษย์เปลี่ยนจาก “62” เป็น “472”

นั่นหมายความว่ามีชนเผ่าพื้นเมืองนี้ทั้งหมด 410 คน

แม้ว่าจำนวนของพวกเขาจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับพวกโคโบลด์ได้ แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นมนุษย์ก็ทำให้พวกเขาได้เปรียบ

การไหลเข้าของผู้คนทำให้จำนวนประชากรในดินแดนเพิ่มขึ้นหลายเท่า

อาณาเขตจะเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ขณะที่จีเฉินรู้สึกยินดี เขาก็มองเห็นส่วนหนึ่งในแผงที่แสดงคุณลักษณะ

[Hero]: ไซเรน: อลิซ (ระดับที่เหนือกว่าสีน้ำเงิน), มนุษย์: เสือดำ (ฮีโร่ผู้ทะเยอทะยาน)

ฮีโร่ผู้มุ่งมั่น?

เสือดำ?

มันหมายถึงคนพื้นเมืองชื่อเสือดำหรือเปล่า?

จี้เฉินรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาเป็นเพียงนักรบธรรมดา แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเป็นวีรบุรุษผู้ทะเยอทะยาน

ความหมายของฮีโร่ผู้ทะเยอทะยานนั้นเรียบง่ายมาก เป็นคนที่มีคุณสมบัติที่จะเป็นฮีโร่แต่ยังไม่ได้เป็นฮีโร่

เพราะเขาไม่ได้เป็นฮีโร่ คำว่า “ฮีโร่” จึงไม่ปรากฏบนอินเทอร์เฟซ

เพราะเขาไม่ได้เป็นฮีโร่ คำว่า “ฮีโร่” จึงไม่ปรากฏบนแผง

เมื่อผู้เล่นได้รับความจงรักภักดีเท่านั้น พวกเขาจึงจะเห็นชื่อของ “ฮีโร่ผู้ทะเยอทะยาน”

การตั้งค่านี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมาก

ตัวอย่างเช่น ในบรรดากลุ่มผู้ลี้ภัยที่ผู้เล่นเผชิญในช่วงแรก ๆ อาจมีฮีโร่ผู้ทะเยอทะยาน แต่พวกเขาไม่รู้ บางทีอาจเป็นเพราะอาหารไม่เพียงพอในดินแดน ผู้เล่นจึงขับไล่พวกเขาออกไป

อย่างไรก็ตาม การสรรหาฮีโร่ที่ต้องการนั้นง่ายกว่ามากเมื่อเทียบกับการสรรหาฮีโร่ที่เต็มเปี่ยม

ดังนั้นการสรรหาฮีโร่ผู้มุ่งมั่นจึงขึ้นอยู่กับสายตาที่เฉียบแหลมของผู้เล่น

แต่เห็นได้ชัดว่าจีเฉินเป็นผู้เล่นประเภทที่ขาดความฉลาดเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าคนพื้นเมืองถูกจับโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักตั้งแต่แรก และไม่ได้แสดงความสามารถที่โดดเด่นใดๆ นอกเหนือจากความคล่องตัวและความว่องไวเป็นพิเศษ จึงเป็นการยากที่จะตัดสิน

ความสนใจของจีเฉินปะทุขึ้น และเขาก็เปิดแผงเพื่อดูข้อมูลอย่างรอบคอบ

[Panther (Aspiring Hero)]

[Race]: มนุษย์

[Level]: 6

[Current Tier]: ไม่มี

[Potential]: สีเขียว (ชั้นยอด)

[Skills]: สัญชาตญาณอันตราย (ทักษะสีเขียวแสดงความสามารถในการสัมผัสลึกลับต่ออันตราย)

การรับรู้การล่าสัตว์ (ทักษะสีเขียว มีการรับรู้อย่างกระตือรือร้นต่อเหยื่อ สามารถติดตามอย่างไม่หยุดยั้งโดยใช้ข้อมูลต่างๆ)

Primitive Bloodline (ทักษะสีเขียว สายเลือดพิเศษ ส่งผลให้มีความคล่องตัวและความสามารถในการต่อสู้ที่ดี)

[Unit Characteristics]: ความเชื่อดั้งเดิม (เมื่อภักดีแล้วจะไม่ทรยศและปฏิบัติตามคำสั่ง 100%)

[This is an aspiring hero with green elite-tier potential]

เมื่อมองแวบแรก จีเฉินก็ตัดสินใจทันทีว่าเขาได้พบผู้สมัครที่จะเป็นกัปตันเรือโจรสลัดแล้ว

โจรสลัดทำอะไร?

พวกเขาล่องเรือไปในทะเลอันกว้างใหญ่เพื่อค้นหาเรือที่จะปล้น

และทักษะการรับรู้การล่าสัตว์ก็มีประโยชน์สำหรับสิ่งนั้นไม่ใช่หรือ?

โจรสลัดกลัวอะไร?

พวกเขากลัวว่าจะถูกตามล่าโดยกองกำลังทางการ เช่น กองทัพเรือของราชอาณาจักร

และสัญชาตญาณอันตรายก็มีบทบาทในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?

ทั้งสัญชาตญาณอันตรายและการรับรู้การล่าสัตว์เป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบสำหรับอาชีพโจรสลัด

เขาถูกสร้างมาเพื่อเป็นโจรสลัด

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จีเฉินจะทำให้ชายหนุ่มคนนี้กลายเป็นกัปตันภายใต้ราชาโจรสลัดแห่งทะเลกลางในอนาคต

“ถ้าคุณทำงานหนัก ฉันจะหาภรรยาสิบคนให้คุณ” จีเฉินกล่าวในหัวของเขา

เสือดำที่ยืนอยู่ด้านข้าง จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวสั่นไปตามกระดูกสันหลังของเขา เขามองซ้ายมองขวาด้วยความงงงวย

เดี๋ยวก่อน พวกโคโบลด์ถูกยึดครองแล้ว เป็นไปได้ไหมว่ายังมีอันตรายอยู่บ้าง?

จี้เฉินถามด้วยรอยยิ้ม ความสนใจของเขาถูกดึงไปที่กระท่อมมุงจากที่ลอยอยู่บนน้ำอีกครั้ง

“ทำไมคุณถึงอาศัยอยู่บนน้ำ? บนบกไม่ปลอดภัยกว่าเหรอ?”

หัวหน้าเผ่าอธิบาย

“ต้นไม้ยักษ์สามารถบังลม ฝน และแสงแดดได้ เพื่อเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุ”

“นอกจากจะเป็นที่หลบภัยจากอันตรายบนบกแล้ว โคโบลด์ สัตว์และสัตว์ประหลาดส่วนใหญ่ยังกลัวน้ำเป็นอย่างมาก”

จี้เฉินพยักหน้าด้วยความเข้าใจ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่สวนน้ำที่ลอยอยู่บนผิวน้ำเพื่อปลูกพืชบางชนิด

“สวนน้ำเหล่านี้ปลูกอะไร?”

จีเฉินรู้เกี่ยวกับสวนน้ำ เนื่องจากเป็นวิธีการปลูกที่อารยธรรมจำนวนมากได้พยายาม โดยเกี่ยวข้องกับการใช้โคลน ดิน ไม้ เส้นใย และวัสดุอื่นๆ เพื่อสร้างสวนที่สามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้ โดยใช้แหล่งน้ำโดยรอบเพื่อการชลประทาน

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว สวนน้ำจะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งน้ำจืด แต่ที่นี่ ในป่าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยักษ์ น้ำตื้นเชื่อมต่อกับมหาสมุทรโดยตรง และน้ำก็มีรสเค็ม

พืชสามารถชลประทานด้วยน้ำทะเลได้หรือไม่?

นั่นเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย..