เจ้าแห่งมหาสมุทรนั้นทรงพลังอย่างผิดปกติ - บทที่ 64

บทที่ 64: ความประหลาดใจเล็กน้อย

ผู้แปล: บรรณาธิการแปลเรือมังกร: แปลเรือมังกร

กลุ่มเดินไปข้างหน้าในรูปแบบอันยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยเมอร์ล็อคทะเลตื้นสิบตัวที่ประจำการอยู่ที่นั่น พวกเขาข้ามน้ำตื้นและมาถึงเกาะเล็กๆ แห่งที่สอง

เช่นเดียวกับเมื่อก่อน โครงกระดูกจะสัญจรไปมาภายในเกาะเล็กๆ แห่งแรกเท่านั้น โดยไม่ได้ข้ามน้ำตื้นไปยังเกาะหลัก ราวกับว่ามีคนควบคุมพวกเขาจากด้านหลัง

โชคดีที่ความพยายามที่พวกเขาทำเมื่อวานนี้เพื่อเคลียร์พื้นที่ก็มีผลอยู่บ้าง จำนวนโครงกระดูกที่สัญจรไปมาบนเกาะเล็กๆ แห่งแรกตอนนี้น้อยกว่าหนึ่งในยี่สิบของจำนวนเมื่อวาน

จี้เฉินนำกองทัพของเขากวาดล้างพื้นที่โดยไม่มีการต่อต้านมากนัก ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงสุดขอบ โดยจ้องมองไปยังเกาะเล็กๆ แห่งที่สอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเมื่อวาน ความหนาแน่นของโครงกระดูกดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสัดส่วนที่สูงกว่าของ Black Skeletons และ Fiery Skeleton Hounds ซึ่งเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามมากกว่า

เมื่อเห็นสิ่งนี้ จี่เฉินก็รู้สึกจมดิ่งลง หากปล่อยไว้โดยไม่เลือก จำนวนโครงกระดูกที่นี่จะเกินห้าหลักจะใช้เวลาไม่นาน มันจะกลายเป็นหายนะของอันเดดที่ท่วมท้นอย่างแท้จริง

“คำราม!”

ฝูงโครงกระดูกสีขาวหลายร้อยตัวข้ามน้ำตื้นและเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นพวกเขา ฝูงชนก็ส่งเสียงคำรามแหลมคม แจ้งเตือนโครงกระดูกอื่นๆ บนเกาะเล็กๆ แห่งที่สองทันที

ทันใดนั้น Skeleton Sea ก็ปะทุขึ้นราวกับรังแตน โครงกระดูกสีขาว โครงกระดูกสีดำ และสุนัขล่าเนื้อโครงกระดูก—หลายพันตัวรุมเข้าหาพวกเขา

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟริบหรี่ และหูของเขาเต็มไปด้วยเสียงกระดูกที่บดขยี้กัน

หนังศีรษะของจี้เฉินชาไปเมื่อเขาเห็นฉากที่น่าตื่นเต้นนี้

เขากัดฟันรีบจัดทัพอย่างรวดเร็ว

บนชายหาดแคบๆ ที่เชื่อมระหว่างเกาะย่อยทั้งสอง มีการสร้างแนวป้องกันยาวประมาณ 50 เมตร

มีนักรบนาคอยู่ตรงกลาง ทำหน้าที่ต้านทานแรงกดดันที่เผชิญหน้า

โจรสลัดยืนอยู่ทั้งสองด้านรับผิดชอบการสนับสนุน

การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น

แทนที่จะบอกว่าสัตว์ประหลาดโครงกระดูกกำลังวิ่งเข้ามา มันแม่นยำกว่าที่จะบอกว่ามันถูกผลักไปข้างหน้าโดยสัตว์ประหลาดโครงกระดูกที่อยู่ข้างหลังมัน

มอนสเตอร์โครงกระดูกหลายตัวถูกผลักลงพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจและจมน้ำตายทันที

อากาศเต็มไปด้วยเปลวไฟริบหรี่ และเสียงกระดูกที่ถูกันก็ก้องอยู่ในหูของพวกเขา

เมื่อเห็นฉากที่งดงามนี้ จี้เฉินก็รู้สึกเสียวซ่าบนหนังศีรษะของเขา เขากัดฟันและรีบเคลื่อนทัพออกไป

บนพื้นที่แคบๆ ที่เชื่อมเกาะเล็กๆ ทั้งสองเข้าด้วยกัน พวกเขาได้สร้างแนวป้องกันที่ทอดยาวประมาณห้าสิบเมตร นักรบนากายืนอยู่ตรงกลาง แบกรับการโจมตีของศัตรู ขณะที่โจรสลัดขนาบข้างเพื่อสนับสนุน

การต่อสู้ที่ใกล้เข้ามากำลังจะเริ่มต้นขึ้น แทนที่จะบอกว่ามอนสเตอร์โครงกระดูกพุ่งไปข้างหน้าโดยสมัครใจ มันแม่นยำกว่าที่จะบอกว่าพวกมันถูกผลักดันโดยโครงกระดูกที่อยู่ข้างหลังพวกมัน

โครงกระดูกจำนวนมากสะดุดโดยไม่ได้ตั้งใจและถูกฝูงชนที่กำลังเข้ามากลืนกินทันที และถูกเหยียบย่ำเป็นชิ้น ๆ ไม่สามารถพบกระดูกที่สมบูรณ์ได้

ความดุร้ายที่เกิดจากการสังหารหมู่ที่ทำร้ายตัวเองนั้นช่างน่าประหลาดใจ พวกมันพุ่งสูงขึ้นราวกับสึนามิสีขาว ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวในใจของทุกคน

ความเร็วของพวกเขาเร็วมาก และในชั่วพริบตา พวกเขาอยู่ห่างจากแนวป้องกันไม่ถึงร้อยเมตร

เมื่อเห็นเหตุการณ์นั้น จี้เฉินก็หรี่ตาและกระซิบว่า “อลิซ ดำเนินการตามแผนต่อไป”

ไซเรนสาวพยักหน้าและเปล่งเสียงไพเราะของเธอทันที

“ลา—”

อย่างไรก็ตาม การร้องเพลงของเธอกินเวลาเพียงสามวินาทีก่อนที่จะหยุดกะทันหัน แม้ว่าการร้องเพลงจะกินเวลาเพียงช่วงสั้น ๆ แต่มันก็มีผลกระทบต่อส่วนนำของฝูงโครงกระดูก

สิ่งมีชีวิตอันเดดเหล่านี้ซึ่งมีความต้านทานทางจิตไม่ดี ถูกตรึงทันทีเมื่อได้ยินเพลง และสูญเสียการควบคุมร่างกายของพวกเขา

แต่การหยุดชะงักอย่างกะทันหันทำให้เกิดปัญหาใหญ่

โครงกระดูกจำนวนมากที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและยืนเรียงกันแน่น จะหยุดทั้งหมดพร้อมกันได้อย่างไร?

ในขณะที่โครงกระดูกด้านหน้าหยุดเมื่อได้ยินเสียงเพลงหยุดลง ผู้ที่อยู่ข้างหลังพวกเขาไม่ได้ยินและยังคงพุ่งไปข้างหน้าอย่างประมาทเลินเล่อ

มันเหมือนกับปฏิกิริยาลูกโซ่

โครงกระดูกที่อยู่ด้านหลังชนเข้ากับโครงกระดูกด้านหน้า ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายและส่งพวกมันออกไปทุกทิศทุกทาง

ฉากนี้เต็มไปด้วยเปลวไฟริบหรี่และเสียงเสียดสีระหว่างกระดูกต่อกระดูก

เมื่อเห็นภาพอันตระการตานี้ จี้เฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้านที่กระดูกสันหลัง

เขาจัดทัพอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล โดยสร้างแนวป้องกันตามแนวพื้นที่แคบๆ ที่เชื่อมระหว่างเกาะทั้งสอง

นักรบนากาเข้าประจำตำแหน่งตรงกลาง เตรียมพร้อมรับการโจมตีด้านหน้า ขณะที่โจรสลัดขนาบข้างและให้การสนับสนุน

การต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

แทนที่จะชาร์จโครงกระดูกอย่างแข็งขัน ดูเหมือนว่าพวกมันถูกผลักไปข้างหน้าโดยคนที่อยู่ข้างหลังพวกมัน

โครงกระดูกบางส่วนสะดุดและล้มลงขณะที่พวกมันถูกเพื่อนผลักโดยไม่ได้ตั้งใจ และฝูงก็กลืนหายไปทันที

กระดูกของพวกเขาถูกเหยียบย่ำจนไม่สามารถหาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ได้

ในความสับสนวุ่นวายแห่งการทำลายล้างตนเอง พลังที่น่าเกรงขามก็ปรากฏออกมา

พวกมันดูเหมือนสึนามิสีขาว พุ่งเข้าหาแนวป้องกันด้วยความเร็วที่น่าตกใจ สร้างความหวาดกลัวให้กับใครก็ตามที่เห็นมัน

ด้วยระยะทางที่จำกัดสำหรับการชาร์จครั้งที่สอง เวลาก็สุกงอม

จี้เฉินหรี่ตาลงและยกแขนขึ้นแล้วตะโกนว่า “หน่วยที่อยู่ในระยะไกลทั้งหมด เปิดไฟ!”

Murloc Rangers ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ไม่เสียเวลา โดยหมอบลงและใช้กล้ามเนื้อเป็นสายธนู และใช้กระดูกเป็นธนู

กล้ามเนื้อหลังของพวกเขาดิ้นอย่างรวดเร็ว ดันกระดูกสันหลังอันแหลมคมออกไปด้านนอกอย่างแรง

สาด!

กระดูกสันหลังหลายสิบซี่ยิงไปในอากาศราวกับกระสุนปืน ทิ้งเส้นหลากสีไว้เบื้องหลังก่อนที่จะตกลงไปพร้อมกับแรงกระแทกที่ดังกึกก้อง

ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มด้านหน้าแนวป้องกัน มันคล้ายกับพายุที่ท่วมท้นโครงกระดูก

หนามกระดูกเหล่านี้คมกว่ามีดและเร็วกว่าลมหนาว เจาะทะลุกะโหลก ปักหมุดร่างกายลง และดับแก่นแท้ของดวงวิญญาณนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตามยังมีอีกมากที่จะมา

พวก Murloc Rangers ยื่นกระดูกสันหลังอีกระลอกหนึ่งออกมาจากหลังของพวกเขา

กระสุนปืนถูกยิงออกไปอีกนัดหนึ่ง

โครงกระดูกที่เหลือพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาหลังจากหลบเลี่ยงพื้นที่สำคัญ และถูกกระแทกอย่างแรงจากกระดูกสันหลังกระดูกอีกครั้ง ทำให้พวกมันไม่ขยับเขยื้อน

และแล้วก็มีการเปิดอีกรอบ

ฝูงโครงกระดูกได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงอีกครั้ง

กระดูกสันหลังคลื่นสามคลื่นต่อเนื่องถูกปล่อยออกมา

กระดูกสันหลังมากกว่าหนึ่งพันชิ้นถูกฝังอยู่ในกลุ่มโครงกระดูก พื้นที่ลุ่ม และแม้กระทั่งจมอยู่ในน้ำทะเล ทำให้เกิดฉากที่เหนือจริงและหลอกหลอน

หนามแหลมที่อัดแน่นไปด้วยกระดูกปกคลุมกลุ่มศัตรูราวกับระเบิดคลัสเตอร์

หากศัตรูไม่ใช่โครงกระดูก แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเนื้อและเลือด มันคงกลายเป็นนรกที่มีชีวิต

ดวงตาของจี้เฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เขาไม่ได้คาดหวังว่าเรนเจอร์เมอร์ล็อคเหล่านี้ ซึ่งเป็นเพียงระดับ 5 ดาวระดับ 2 เท่านั้น จะสามารถแสดงความตายที่น่าตกใจเช่นนี้ได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

การโจมตีระลอกนี้คร่าชีวิตมอนสเตอร์โครงกระดูกไปอย่างน้อยสี่ถึงห้าร้อยตัว!

“ติง- เมอร์ล็อค เรนเจอร์เข้าสู่สภาวะอ่อนแอลง และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วคราว”

หลังจากยิงกระสุนปืนติดต่อกันสามรอบ เหล่า Murloc Rangers ก็หมดแรงลง แสดงอาการเหนื่อยล้า อย่างไรก็ตาม การแสดงของพวกเขาเกินความคาดหมายของ Jichen มาก กิจกรรมหลักของวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขา แต่เป็น Sea Pixies ที่ได้รับการปรับปรุง

โครงกระดูกฟื้นตัวจากความคล่องตัวแล้วพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้งหลังจากหลุดพ้นจากหล่ม แต่พวกเขาก็พบกับลูกศรคาถาที่เต็มไปด้วยพลังระเบิด

บูม!

ลูกศรน้ำแทงทะลุร่างของพวกมัน และระเบิดเมื่อกระแทกเป็นกลุ่มหนาแน่น พลังงานที่พลุ่งพล่านฉีกร่างของพวกมันออกจากกัน โดยไม่เหลือโครงกระดูกสีขาว โครงกระดูกสีดำ หรือโครงกระดูกสุนัขล่าเนื้อให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ

ความเสียหายจากเวทย์นั้นโหดเหี้ยมมาก!

ภายใต้ระดับและระดับเดียวกัน ความสามารถในการโจมตีของยูนิตร่ายเวทย์นั้นเหนือกว่ายูนิตทางกายภาพหลายเท่าหรือถึงสิบเท่า!

เมื่อ Sea Pixies ยิงธนูน้ำสามนัดติดต่อกัน Jichen ก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้พวกมันหยุด ถึงเวลาที่จะอนุรักษ์มานาของพวกเขาแล้ว

ในขณะนี้ ฝูงโครงกระดูกที่ฟื้นตัวในที่สุดก็มาถึงแนวป้องกันในที่สุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการหยุดชะงักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเร็วของพวกมันจึงช้า และรูปแบบที่แน่นหนาครั้งหนึ่งของพวกมันก็หลวมและไม่เป็นระเบียบ

พวกเขาชนเข้ากับแนวป้องกันอย่างอ่อนแรง ไม่สามารถปล่อยพลังเต็มพิกัดได้ ในทางตรงกันข้าม นักรบนากาและโจรสลัดชั้นสูงยืนหยัดอย่างมั่นคงราวกับป้อมปราการที่แข็งแกร่ง

นี่เป็นผลที่จีเฉินต้องการอย่างแน่นอน

คลื่นอันทรงพลังเพียงครั้งเดียว ตามด้วยการลดลงและความเหนื่อยล้าในที่สุด

ด้วยการทำให้คลื่นเริ่มต้นที่รุนแรงที่สุดของฝูงโครงกระดูกเป็นกลาง การเผชิญหน้าครั้งต่อๆ ไปจะสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น

ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องอีกต่อไป

บรรยากาศการต่อสู้มาถึงจุดสุดยอดทันทีที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน

นักรบนากาส่งเสียงคำรามดังก้อง การเสียดสีของตรีศูลที่ฉีกอากาศ และเสียงกรีดร้องอันดุเดือดของโจรสลัด

แต่ละเสียงก้องกังวาน

โครงกระดูกผู้กล้าหาญโจมตีแนวป้องกันอย่างไม่ลดละ

สิ่งที่ทำให้อันเดดน่ากลัวก็คือการไม่มีความกลัวและไม่มีแนวคิดเรื่องชีวิตและความตาย โดยไม่คำนึงถึงจำนวนศัตรูหรือจำนวนผู้เสียชีวิต ขวัญกำลังใจของพวกเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 100 คะแนน

อย่างไรก็ตาม กองทัพของจี้เฉินก็ไม่ถูกกดดัน

การปราบปรามยศโดยสิ้นเชิงทำให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานและความกล้าหาญในการต่อสู้ที่น่าเกรงขาม แม้ว่าศัตรูจะมีจำนวนมากกว่าพวกเขาหลายสิบต่อหนึ่ง แต่ไม่มีทหารสักคนเดียวที่แสดงท่าทีหวาดกลัว พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญโดยไม่มีใครขัดขวางโอกาสแห่งความตาย

ตอนนี้ มีเพียงความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคลและการประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างทหารเท่านั้นที่พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีของฝูงโครงกระดูกได้!