ความจริงแห่งเวทมนตร์ - บทที่ 566

บทที่ 566 ระดับค่าย โศกนาฏกรรมในโลกมนุษย์

ถ้าคนธรรมดาพูดแบบนั้น ทุกคนคงเยาะเย้ยพวกเขาไปแล้ว

แต่เสียงของ Zhao Xu ในขณะนี้มีพลังมากมายบางอย่าง มันเปล่งประกายเสน่ห์แปลก ๆ และตรงเข้าสู่ส่วนลึกของหัวใจของทุกคน

ไม่ต้องพูดถึง ชื่อเสียงและพลังของนักเวทย์ยังคงอยู่ ในเวลาเพียงครึ่งปี พวกเขาได้ทิ้งความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ในใจของผู้เล่น

ความแข็งแกร่งของพ่อมดของผู้เล่นและพ่อมดพื้นเมืองในอาเธอร์เป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ด้วยการเกิดขึ้นของคาถาระดับ 3 ” คาถาสังหารขนาดใหญ่ ” และ ” วิธีการโจมตีทางอากาศสามมิติ ” ประเภทนี้ที่ปรากฏเป็นครั้งแรกยังคงสร้างชื่อเสียงของคาถาระดับ 3

ไม่ว่า Zhao Xu จะแสดงพลังของเขาออกมามากแค่ไหน เขาก็เคยเห็นพวกเขาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เมื่อจำนวนพื้นฐานของนักเวทย์วงกลมที่สามถึงระดับใหม่เท่านั้น อาชีพนักเวทย์จะไม่มัวหมองอีกต่อไป

นักรบจางเหยาหยูอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเพื่อเคลียร์จิตใจ เขาตระหนักว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้ดูเหมือนพลังเวทย์มนตร์ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกประทับใจกับนักเวทย์ลึกลับคนนี้อย่างจริงใจ

บางทีนี่อาจเป็นเสน่ห์ของคำพูดก็อาจทำให้อีกฝ่ายเชื่อได้ง่าย

“คุณเป็นผู้เล่นด้วยเหรอ? คุณรู้จักพวกเขาไหม”

ผู้เล่นนักรบ จาง เหยาหยู ผู้ซึ่งนำอาวุธของเขากลับมาอย่างง่ายดาย ก็มีอารมณ์ดีเช่นกัน เขาหัวเราะอย่างเต็มที่ที่ Zhao Xu

“มีคนมอบหมายให้ฉันมา” จ้าวซูพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว

ในเวลานี้ แฟนสาวของผู้เล่นนักรบอดไม่ได้ที่จะดึงปลอกแขนแฟนของเธอ คุณคิดว่านักเตะคนไหนที่อยู่ในสภาพเย็นชาเช่นนี้? นอกจากนี้ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการค้นหาครอบครัวในเวลานี้ ใครมีเวลาให้เสียเวลาแบบนี้บ้าง? –

เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อแฟนของเธอถามถึงอีกฝ่าย

ดวงตาของผู้เล่นนักรบเผยให้เห็นถึงความตกใจ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น เฮ้อ ฉันหวังว่านักเวทย์ของพวกคุณจะมีวิธีที่จะกอบกู้หินได้ ทุกคนคิดที่จะปรับปรุงพลังการต่อสู้ของตนตั้งแต่แรก และไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ใครจะคิดว่าเมื่อคุณลักษณะของเกมเริ่มแรกกลายเป็นคุณลักษณะทางกายภาพที่แท้จริง มันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้ –

ขณะที่เขาพูด นักรบจาง เหยาหยูก็อดไม่ได้ที่จะดีใจที่เขาไม่ได้ไปสุดขั้วในเวลานั้น อย่างน้อยเขาก็ยังคงมีวิธีคิดในระดับปานกลาง และให้คะแนนความสามารถพิเศษ 2 คะแนนในด้านสติปัญญา โดยรักษาสติปัญญาโดยเฉลี่ยนี้ไว้

Zhao Xu สังเกตเห็นว่าแฟนสาวของนักรบมองดูสีหน้าของเขาสองสามครั้ง ราวกับว่าเธอกำลังพยายามคิดอะไรบางอย่างจากสีหน้าของเขา

แต่จ้าวซูที่ตัดสินใจมาที่นี่เพื่อรับสมัครเมล็ดพันธุ์พ่อมด ทำการบ้านได้ดีมาก

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตบหน้าด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้ทุกประเภท Zhao Xu ได้เตรียมการอย่างเพียงพอก่อนที่เขาจะจากไป

เขาได้ตรวจสอบคาถาอาคมทุกประเภทในระยะเวลาที่จำกัด และเขาก็คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เพื่อปรับตัวเข้ากับงานที่สำคัญนี้ เขายังได้ใช้หนังสือเวทมนตร์หมื่นเล่มเพื่อเลือกคาถาอาคมวงกลมที่สูงกว่า เพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้าย

นอกเหนือจากผลของเวทย์มนตร์ที่ไม่สมเหตุสมผล…

ในประวัติศาสตร์ เหตุผลที่สำคัญที่สุดว่าทำไมผู้ประกาศที่มีอำนาจเหนือกว่าจึงโน้มน้าวพระมหากษัตริย์ของประเทศต่างๆ ก็คือความมีคารมคมคายและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของพวกเขาเอง

ในอาเธอร์ ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะทางการทูต เช่น ” การสังเกต ” ” บลัฟ ” ” การเจรจาต่อรอง ” ” การข่มขู่ ” และ ” การแสดง (xxx) ทักษะเหล่านี้ยังเชื่อมโยงกับ “ค่าการปรับเสน่ห์”

หลังจากที่ผู้เล่นได้ย้ายถิ่นฐานแล้ว ทักษะที่พวกเขาร่ายทันทีก็กลายเป็น “ทักษะที่แท้จริง” ที่ยังใหม่อยู่

แม้ว่าเขาจะเป็นคนพูดติดอ่างที่ไม่สามารถพูดได้ดีด้วยความช่วยเหลือจากคะแนนทักษะที่สูงและเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดาของเขา มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเป็น ”นักพูด” ที่ทรงพลัง

ดังนั้น ผู้เล่นจำนวนมากจึงได้สัมผัสกับระดับการเปลี่ยนแปลงในเกม

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นจึงสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาเธอร์ได้

นี่เป็นเพราะว่าคุณลักษณะของพวกเขาซึ่งมี 28 หรือ 32 แต้มพรสวรรค์นั้นอยู่ที่ระดับ ” เปิดตัวฮีโร่ ” แล้ว ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งในพัน

ดู Zhao Xu เป็นตัวอย่าง เขาร่ายเวทย์ระดับ 2 ระดับสวรรค์ ดวงตาเจ้าเล่ห์ ในช่วงเวลาสั้นๆ และเขาได้รับพรสวรรค์ของคนแคระของยิลเลตต์แล้ว เขาได้รับโบนัสข้อมูลเชิงลึกระดับ 10 ทันทีสำหรับทักษะการหลอกลวง การเจรจา การข่มขู่ และการสังเกต

ระดับ 10 เป็นความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว

ในเวลาเดียวกัน Zhao Xu ก็มีคาถาเวทย์มนตร์ระดับ 4 ที่ใช้คำมังกรใส่เขา คาถานี้ทำให้เสียงของเขาฟังดูทุ้มลึกและมีพลัง และทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าเสียงของเขายิ่งใหญ่ มีพลัง และลึกซึ้ง

หากวัดเป็นปริมาณ ก็หมายความว่า Zhao Xu จะได้รับ A +10 เพิ่มขึ้นในความสามารถของเขาในการบลัฟฟ์ เจรจาต่อรอง และข่มขู่

ตอนนี้เขาได้เพิ่มเสน่ห์ระดับ 4 แล้ว แม้ว่า Zhao Xu จะไม่ได้ใส่คะแนนใดๆ ในทักษะการทูตของเขา ซึ่งหมายความว่าเขาไม่มีการฝึกอบรมเพื่อสร้างรากฐานของเขาเอง ทักษะทางการฑูตเหล่านี้ถูกผลักดันให้อยู่ในระดับได้อย่างง่ายดาย 24.

ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเข้าสังคม

อย่างช้าๆ ในขณะที่ทั้งสามคนพูดคุยกันขณะที่พวกเขาเดินลึกเข้าไปในค่าย ผู้อพยพพลเรือนจำนวนมากก็มองมาทางพวกเขา อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เพียงเหลือบมองพวกเขาก่อนจะหันกลับไปทำธุรกิจของตัวเองต่อ

บางคนใช้ไม้และกิ่งไม้ที่พวกเขาหยิบขึ้นมาเพื่อทำเครื่องมือง่ายๆ ในขณะที่บางคนตั้งใจฟังคำแนะนำของผู้เล่นที่เป็นหน่วยสอดแนม

“ความก้าวหน้าค่อนข้างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มสอนภาษากลางแล้ว” Zhao Xu กล่าวอย่างมีอารมณ์

“ใช่” ผู้เล่นนักรบยิ้มอย่างขมขื่น ฉันเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กๆ ฉันไม่ได้คาดหวังที่จะย้ายถิ่นฐานเมื่อเรียนจบ จากนั้น ฉันก็ต้องเรียนรู้ภาษากลางของอาเธอร์ โชคดีที่ระบบให้ภาษากลางแก่ฉันตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าเป็นพวกป่าเถื่อนคงแย่มาก พวกเขาเกิดมาไม่รู้หนังสือ ถ้าพวกเขาไม่มีทักษะการขว้างปาในการสอนภาษา พวกเขาก็ต้องเรียนรู้วิธีการอ่านอีกครั้ง”

ภาษากลางเองก็มีไวยากรณ์ที่เรียบง่ายและคำศัพท์ง่ายๆ สามารถใช้เพื่อสื่อสารกับเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ในอาเธอร์ได้ ดังนั้นจึงไม่เสียเปล่า จ้าวซูปลอบใจเธอ เขาสามารถเห็นสีหน้าเขินอายของแฟนสาวนักรบของเขาได้ และเห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาที่เธอต้องเผชิญด้วย

ตอนนี้ทุกคนกำลังเรียนรู้ภาษาแล้ว ไม่ใช่แค่ดูไวยากรณ์และคำศัพท์และรอคะแนนทักษะในการแปลงภาษาอีกต่อไป

ยิ่งไปกว่านั้น หากเขาไม่ต้องการเรียนรู้จริงๆ ระบบจะแปลโดยอัตโนมัติ ดังนั้นมันจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเขาเลย

มีผู้เล่นชั้นยอดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เชี่ยวชาญภาษานี้และสามารถทำซ้ำได้บนโลก

” อย่างไรก็ตาม การเป็นนักเวทย์ก็ยังสะดวกกว่า นักรบ Zhang yaoyu ส่ายหัวขณะที่เขาพูด เมื่อเราเข้าสู่ช่วงแรกของเกม เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเชี่ยวชาญภาษาได้กี่ภาษาโดยพิจารณาจากความฉลาดที่เรามี โดยธรรมชาติแล้ว นักเวทย์ที่มีสติปัญญาสูงสุดย่อมได้เปรียบ”

สำหรับจาง เหยาหยู่ ทหารที่มีสติปัญญา 10 ระดับ เขามีภาษากลางเพียงภาษาเดียวเท่านั้น

ความสามารถทางภาษา Arcana ระดับ 1, ภาษา Wormtongue ระดับ 3 ของ Arcana ทั้งคู่สามารถเอาชนะอุปสรรคด้านภาษาได้ จ้าว xu อธิบายว่า “นี่คือจุดที่พ่อมดได้เปรียบจริงๆ อย่างไรก็ตาม บริเวณนี้ก็มีของวิเศษเช่นกัน หากคุณมีความต้องการดังกล่าวจริงๆ คุณสามารถเลือกซื้อได้”

ฉันจะซื้ออุปกรณ์เวทมนตร์ได้อย่างไร? ตอนนั้นฉันไม่ได้ใช้เงินซื้อมัน และตอนนี้ฉันก็ลืมมันได้แล้ว ขณะที่เขาพูด จางเหยาหยูก็รู้สึกหดหู่ หอการค้ายังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในตอนแรก พวกเขาสะสมความมั่งคั่งจำนวนมากและจะระเบิดอย่างแน่นอน

“ฉันไม่คิดอย่างนั้น” Zhao Xu กล่าว

เขาพึมพำในใจว่าความมั่งคั่งที่กองกำลังอื่นทิ้งไว้อาจไม่สามารถกู้คืนได้

แม้แต่ลอร์ดเช่นเขาซึ่งเป็นหัวหน้าสมาคมพ่อมดท้องถิ่นด้วย ก็ยังถูกกองกำลังของเมืองขโมยอาหารของเขาไปเพียงเพราะเขาหายตัวไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน เขาคงไม่เชื่อว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

เพียงแต่ว่า Zhao Xu ไม่มีเวลาจัดการกับบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

สำหรับผู้เล่นของกองกำลังอื่น การสูญเสียทรัพย์สินถาวรของพวกเขาจะร้ายแรงกว่านี้อย่างแน่นอน อาจมีบางคนที่ถูกกฎหมายสั่งให้รวบรวมด้วยซ้ำ

จากนั้น Zhao Xu สังเกตบริเวณค่ายอย่างระมัดระวังและตระหนักว่ามีบางคนได้จัดกลุ่มเด็กเพื่อรับการศึกษาจากโลกเก่าของพวกเขาและสอนภาษาของอาเธอร์ให้พวกเขาด้วย พวกเขากำลังเตรียมการสำหรับทั้งคู่

“เรามาแล้ว นี่ไง”

หลังจากนั้นไม่นาน นักรบ Zhang yaoyu ก็นำ Zhao Xu ไปยังพื้นที่ที่ค่อนข้างรกร้างในค่าย

คนไข้ที่อ่อนแอและผู้สูงอายุที่โดดเดี่ยวจำนวนมากนอนอยู่บนพื้นและคร่ำครวญราวกับว่าพวกเขากำลังจะตาย

นอกจากนี้ยังมีผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่บางคนที่มีผมรุงรังและใบหน้าสกปรกอีกด้วย ดวงตาของพวกเขากระสับกระส่ายและซีดเซียวขณะมองไปข้างหน้า พวกเขาพึมพำและพูดคำเดิมซ้ำ

บนโลกนี้ คนขี้เมาไร้บ้านและผู้ติดการพนันไม่ได้ดีไปกว่านี้แล้ว

สิ่งนี้แตกต่างจากสถานการณ์ที่ Zhao Xu ได้เห็นผู้อพยพเข้ามาเป็นครั้งแรก เมื่อเวลาผ่านไป ผลกระทบของการขาดอาหารและการกัดกร่อนของพลังงานด้านลบก็เริ่มมีผลเมื่อเวลาผ่านไป

ผู้อพยพบนโลกดูเหมือนจะเป็นหนี้ฉลามเงินกู้ รายได้ต่อเดือนของพวกเขาแทบจะไม่เพียงพอที่จะจ่ายดอกเบี้ย และพวกเขาก็วนเวียนอยู่ในหลุมลึกตลอดเวลา

แม้ว่า Zhao Xu จะเตรียมจิตใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังทนไม่ได้ที่จะเห็นคนเหล่านี้อยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนี้ เขาไม่เห็นความหวังใดๆ บนใบหน้าของพวกเขา

ถ้าคุณเป็นผู้เล่น ไม่ว่าอาการป่วยของคุณจะร้ายแรงแค่ไหน คุณก็คงเกือบจะหายดีแล้วในอาเธอร์ มีคนป่าเถื่อนคนหนึ่งอยู่ในค่ายข้าง ๆ ซึ่งถูกตัดขาทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากย้ายถิ่นฐานแล้ว เขาก็กลายเป็นร่างในเกมและวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาเริ่มวิ่งในตอนเช้าเท่านั้น

“อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ที่ป่วยอยู่แล้วบนโลกต้องอาศัยพรแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างร่างกายของพวกเขาขึ้นมาใหม่หลังจากการอพยพ และโรคดั้งเดิมของพวกเขาก็ลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ภายใต้อิทธิพลของดินแดนต้องสาปนี้ ร่างกายของพวกเขาซึ่งอ่อนแออยู่แล้วเนื่องจากความเจ็บป่วย กลับทนไม่ไหวอีกต่อไป ในเวลาเพียงวันเดียว หลายคนเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง และอาการที่เพิ่งทุเลาลงก็กลับมาเป็นซ้ำอีก”

“ความผิดหวังแบบนี้เมื่อคิดว่าหายดีแล้วแต่กลับพบว่าเป็นเพียงภาพลวงตาในพริบตาก็ทำให้ใจของใครหลายคนที่กัดฟันรักษาโรคนี้แตกสลายโดยตรง ไม่ต้องพูดถึงว่าไม่มีเงื่อนไขทางการแพทย์บนโลกเลย”

“ไม่ หรือไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะสนุกกับมัน”

ขณะที่เขาพูด นักรบจาง เหยาหยู่ก็ชี้ไปยังอีกพื้นที่หนึ่งของค่ายซึ่งมีควันลอยขึ้นมา

มันไม่ง่ายเลยที่จะจุดไฟและปรุงอาหารหลังจากการข้ามชาติเพียงวันเดียว พวกเขาถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยใน Wildlands

ขอเอาพระภิกษุผู้นั้นเป็นตัวอย่าง แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงวงกลมที่ 2 แต่เขาก็มีคัมภีร์ ‘กำจัดโรค’ ในวงกลมที่ 3 ผู้คนนับไม่ถ้วนคุกเข่าขอร้องอยู่หน้าบ้านของเขา แค่มีเสียงร้องไห้ทุกที่ การเชื่อมต่อทุกประเภทถูกขุดขึ้นมา และผู้คนพยายามหาวิธีพูดคุยกับเขาเพื่อให้ได้คัมภีร์นี้

แต่พูดง่ายกว่าทำ ความมั่งคั่งทั้งหมดบนโลกจะมีประโยชน์ถ้าฉันสามารถนำมันไปให้อาเธอร์ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่ทุกคนมีคือเสื้อผ้าป่านนี้ ฉันยังเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ได้เลย”

ไม่นานจากนี้ นอกเหนือจากผู้เล่นที่มีอุปกรณ์เป็นของตัวเองและเสื้อผ้าเพิ่มเติม ผู้อพยพส่วนใหญ่จากโลกจะต้องสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง

ขณะที่เขาพูด จางเหยาหยูก็ถอนหายใจ ตามข่าวที่ฉันได้ยินในระหว่างวัน ค่ายเฟิร์สคลาสอยู่ใกล้ย่านย่านัน พวกเขากำลังพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อชื่นชมร่มเงา และไม่มีใครกล้ายั่วยุพวกเขา คุณพูดถูก แม้แต่การข้ามชาติก็ยังต้องมีคนเกิดในเมืองหลวงและมีทะเบียนบ้านด้วย”

สำหรับชั้นสอง พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากนักบวชและพาลาดินที่ส่งมาจากวัด พวกนักบวชเหล่านี้ไม่ต้องการสิ่งใดเลย พวกเขาเพียงต้องการช่วยเหลือพลเรือนและพัฒนาผู้ศรัทธาบางคน อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีจิตสำนึกที่ดี “คลาสที่สามคือคลาสที่กองกำลังอื่นส่งมาช่วย แม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่ทั้งหมดล้วนมีเป้าหมายหรือแผน ลืมไปซะ ทุกคนบนโลกก็เป็นกระเทียมหอมเหมือนกัน หากพวกเขาต้องการตัดมัน อย่างน้อยพวกเขาก็ควรรู้วิธีเลี้ยงมัน”

ชั้นที่สี่คือค่ายของเราซึ่งไม่มีอะไรนอกจากคนหนุ่มสาวและผู้เล่นมากมาย เราค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างน้อยเราก็เผยแพร่ความรู้ของอาเธอร์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกำลังคนเพียงพอ ฉันสามารถคุยอวดคุณและส่งผู้เล่นไปล่าสัตว์เพื่อหาอาหารได้ พวกเขายังสามารถพึ่งพาทรัพยากรและไอเท็มที่ผู้เล่นนำติดตัวไปด้วยเพื่อคงอยู่ได้สองสามวัน เมื่อกำลังเสริมมาถึง พวกเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพลเมืองชั้นสองและสาม”

ชั้นที่ห้าเป็นค่ายที่มีผู้เล่นน้อยมาก พวกเขาอาจไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็มีความสุขมากเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นกษัตริย์ ตราบใดที่พวกเขาพบผู้ใต้บังคับบัญชาที่เชื่อถือได้สักสองสามคน พวกเขาจะไม่ถูกหลอก การทำความเข้าใจอาเธอร์คือความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา “มีผู้เล่นมากมายในแคมป์ของเรา ฉันแค่ไปขออาวุธคืน ครอบครัวของเป่าตงนั้นถือว่ามีทรัพย์สินมากมายบนโลก แต่พวกเขาไม่กล้าแย่งชิงพวกเขากลับในที่สาธารณะ นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้เล่นอยู่ในใจของทุกคน ยิ่งของหายากก็ยิ่งมีค่ามาก สถานะของผู้เล่นในพื้นที่ค่ายระดับห้าเหล่านี้จะเกินจริงมากขึ้นเท่านั้น”

“ระดับต่ำสุดคือค่ายของประเทศที่ยังไม่ได้เปิดเซิร์ฟเวอร์หรือมีผู้เล่นน้อย ความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของผู้เล่นในสถานที่เหล่านี้อยู่ที่ประมาณระดับ 2 หรือ 3 เท่านั้น มาตรฐานของพวกเขาต่ำมาก และพวกเขาสามารถพึ่งพาโชคของตัวเองเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น นี่เป็นเพราะว่าอาเธอร์ทั้งหมดไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย”

นักรบจางเหยาหยูสามารถบอกระดับปัจจุบันของค่ายได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ละเอียดเท่ากับการสนทนาของ Zhao Xu และ Wang Ningwei แต่ก็ยังช่วยชี้ให้เห็นบางสิ่ง

วิธีการสื่อสารมีจำกัด แต่สามารถทำได้ภายในเวลาเพียงวันเดียว นั่นหมายความว่าคนฉลาดในค่ายชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ฟื้นตัวและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแล้ว

หรือมากกว่านั้น คนฉลาดในหมู่ผู้เล่นได้ครอบครองตำแหน่งสำคัญแล้ว ดังนั้นความคิดเห็นของพวกเขาจึงสามารถแพร่กระจายได้ในทันที

“ที่นี่ นักรบครึ่งออร์กที่คุณกำลังมองหาอยู่ตรงนั้น” ขณะที่เขาพูด จางเหยาหยูชี้ไปที่ต้นวินเทอร์วูดที่ค่อนข้างหนา

เอวของครึ่งออร์คถูกโซ่เหล็กขนาดใหญ่ล็อคไว้และพันรอบลำต้นของต้นไม้ เขามีสีหน้าดุร้ายบนใบหน้าและมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขาจะตะครุบเหยื่อราวกับสัตว์ร้าย

ผู้ป่วยที่อยู่รายรอบซึ่งใกล้จะตายเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ไม่ไกลจากความตาย ก็ยังรักษาระยะห่างราวกับว่าพวกเขากำลังหลีกเลี่ยงเทพเจ้าแห่งโรคระบาด พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้เลย แม้ว่าพื้นใต้ต้นไม้จะราบเรียบกว่ามากก็ตาม

ไม่ไกลจากครึ่งออร์กมากนัก มนุษย์เด็กผู้หญิงอายุเจ็ดหรือแปดขวบกำลังร้องไห้และมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง