ก้าวข้ามสวรรค์ทั้งเก้า - บทที่ 527

ตอนที่ 527: Chu Fei Long ของตระกูล Chu

ผู้แปล: Novel Saga บรรณาธิการ: Novel Saga

“ความคิด… คือการสร้าง… พันธมิตรก่อน!” ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่พูดอย่างหนักแน่น “มานับศัตรูของเรากันดีกว่า… ราชาแห่งนรก Chu, Gu Clan, Ji Clan, Luo Clan และ Dong Clan กลายเป็นศัตรูของเราเพราะเรื่องนี้… ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอีกสองคนของพวกเขา – ตระกูล Mo และตระกูล Xie!”

ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ดึงนิ้วของเขาออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “กลุ่ม Gu เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดของพวกเขา Mo Clan นั้นแข็งแกร่ง แต่พวกเขากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากในปัจจุบัน Ji Clan เป็นเพียงสื่อกลาง มันค้างอยู่ตรงกลาง.. มันไม่แรงพอที่จะขึ้นไป.. อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถดึงมันลงได้แม้ว่าคุณจะพยายามก็ตาม อย่างไรก็ตาม ตระกูล Luo, ตระกูล Dong และตระกูล Xie… สามารถเทียบเคียงความแข็งแกร่งของตระกูล Ou ของเราได้”

เขาถอนหายใจยาวก่อนจะพูดอย่างเศร้าใจว่า “กลุ่มของเราสูญเสียผู้เชี่ยวชาญไปมากมายในเรื่องนี้ ดังนั้นเราจึงไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทัดเทียมกับทั้งสามกลุ่มอีกต่อไป… ชายชราคนนี้คำนวณผิด…”

เขาชะงักและไม่พูดอะไรอีกนาน เขามีสีหน้าเศร้าสร้อย จากนั้น เขากล่าวต่อว่า “เราจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเหล่านี้ในตอนนี้ และวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างศัตรูด้วยความเคารพต่อเรา

“มีความเกลียดชังที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขระหว่างตระกูล Ji และตระกูล Gao เช่นเดียวกับตระกูล Mo และเผ่าปีศาจดำ… พวกเขาไม่สามารถอยู่ใต้ท้องฟ้าเดียวกันได้ ตระกูลตงและตระกูลเทียนก็ต่อสู้กันครั้งแล้วครั้งเล่า ตระกูล Gu และตระกูล Tu ยังมีความเกลียดชังที่หยั่งรากลึกและความปรารถนาที่จะแก้แค้นซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ตระกูล Zhao ยังถูกตระกูล Luo ทำลายล้างมาเป็นเวลานาน… ในปัจจุบัน ตระกูล Meng เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง… อย่างไรก็ตาม นี่เป็นข้อดีสำหรับเรา นั่นคือตระกูล Xie ตระกูล Xie ปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานจากตระกูล Li ดังนั้นทั้งสองเผ่าก็ไม่เข้ากัน!”

ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวต่อในลักษณะที่ลึกซึ้ง “ศัตรูของศัตรูของเรา… คือมิตรของเรา เราจะมี… ความแข็งแกร่งของแปดกลุ่มใหญ่อยู่เคียงข้างเรา หากเราสร้างความสัมพันธ์กับพวกเขา และเราจะไม่อ่อนแอหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น…”

ผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่สมควรได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘แหล่งกักเก็บแผนการอันเข้มงวดและการมองการณ์ไกลอย่างลึกซึ้ง’ แผนนี้ได้รับการคิดอย่างดี สติปัญญาของเขาไม่ต้องสงสัยเลยแม้จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ก็ตาม

ดวงตาของอูเฉิงหวู่เป็นประกาย “ความคิดของผู้อาวุโสนั้นยอดเยี่ยมมาก!”

“อืม… อย่างไรก็ตาม ศัตรูได้เป็นผู้นำในการสร้างการเชื่อมต่อแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มดำเนินการทันที เรามาช้าไปหนึ่งก้าว… แต่ก่อนอื่นพวกเขาจะต้องจัดการกับเหตุการณ์สัตว์วิญญาณระดับเก้านี้ก่อน และนี่จะช่วยซื้อเวลาให้เรา!”

ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ย่นคิ้ว “แต่เราจำเป็นต้องป้องกัน… ไผ่ทมิฬเป็นพิเศษ! ฉันได้ยินมาว่า Young Master Yu แห่ง Dark Bamboo และ King of Hell Chu เป็นเพื่อนที่ดี… ฉันไม่รู้ว่ามิตรภาพนั้นดีแค่ไหน… อย่างไรก็ตาม อาจเป็นไปได้ที่ Dark Bamboo จะเริ่มดำเนินการ”

“เราจะไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จเลยหาก Dark Bamboo หันมาต่อต้านเรา” ผิวของ Ou Cheng Wu กลายเป็นเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เราต้องติดต่อกับตระกูล Ao และตระกูล Li เราจะเท่าเทียมกันได้ก็ต่อเมื่อพวกเขายืนเคียงข้างเรา และนั่นน่าจะลดความเสี่ยงได้อย่างมาก”

“คุณกำลังทำผิดพลาด มันจะวุ่นวายกว่านี้ถ้าแบมบูเข้ามายุ่ง! และนั่นเป็นเพราะ Bamboo และแต่ละเผ่ามีความขัดแย้งหรือความขัดแย้งในอดีต…” ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่พูดตะคอกและพูดว่า “และไม่มีอะไรต้องกังวลเมื่อพูดถึงเผ่า Ao Ao Clan จะไม่ก้าวลงไปในน้ำโคลน… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราฆ่า Ao Xie Yun และโยนความผิดให้กับกลุ่มเหล่านี้…?”

เขาแค่พูดจนถึงตรงนี้ และจู่ๆ ก็หยุดลง การจ้องมองของเขาเปลี่ยนไปลึกตั้งแต่เขาสูญเสียการไตร่ตรอง

ดวงตาของโอวเฉิงหวู่เป็นประกาย ห้องโถงเงียบไปในทันที

ผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่อูเฉิงหวู่จะลุกขึ้นยืนด้วยเสียง ‘ชัว’ “เราไม่มีเวลาจะเสียแล้ว ดังนั้นฉันจะจัดกำลังคนเพื่อไปหากลุ่มใหญ่แต่ละเผ่าทันที”

“นำสมบัติการต่อสู้ติดตัวไปด้วย” ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวอย่างน่ากลัว “เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ทรัพยากรเพราะเราต้องการการสนับสนุน สิ่งเหล่านี้จะต้องเก็บไว้กับตัวเอง… เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ในช่วงเวลาวิกฤต!”

โอวเฉิงหวู่ตอบว่า “เอาล่ะ” เขาให้อูดูเซียวพาผู้ชายไปด้วย จากนั้นเขาก็เริ่มจัดเตรียมกำลังคนในลักษณะเชิงรุก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเตรียมการส่งพวกเขาไปปฏิบัติภารกิจทางการทูต

อย่างไรก็ตาม… Ou Du Xiao รีบเร่งอย่างบ้าคลั่งหลังจากนั้นครู่หนึ่ง และเขาก็เหงื่อออกอย่างเย็นชาตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนจำไม่ได้ ดูเหมือนเขาจะเสียสติไปแล้ว “นี่มันแย่!”

“มีอะไรผิดปกติ?” โอวเฉิงหวู่จ้องมองอย่างว่างเปล่า “พวกเขามาถึงแล้วเหรอ?”

ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น “เจ้าต้องใจเย็นไว้! ทำไมคุณถึงตื่นตระหนก?”

ใบหน้าของ Ou Du Xiao เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลือง เขาเกือบจะอยากจะร้องไห้ “บ้านสมบัติที่ซ่อนอยู่ของเราถูกปล้นไปแล้ว ไม่มีสมบัติการต่อสู้ของเราเหลืออยู่…ข้างใน!”

“อะไร?” ผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ยืนขึ้นอย่างดุเดือด และเก้าอี้ก็ส่งเสียง ‘ปัง’ ขณะที่มันพลิกคว่ำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใส่ใจกับมันเลย ดวงตาเก่าของเขาถูกซ่อนอยู่ในริ้วรอยมาโดยตลอด แต่ทันใดนั้นดวงตาทั้งสองก็เปิดกว้างราวกับระฆังทองแดง “พูดอีกครั้งสิ!”

“มันถูกปล้นไปแล้ว… ทุกอย่างหายไปแล้ว…” เสียงของอู๋ตู้เซียวมีน้ำเสียงสะอื้น “เราไม่เหลืออะไรเลย…”

โอวเฉิงหวู่ถอนตัวออกไปสามก้าวอย่างดุเดือด ผิวของเขาขาวราวกับหิมะ

“ไปดูกันเถอะ!”

ในไม่ช้าผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ก็ยืนอยู่ใน ‘บ้านสมบัติลับ’ ที่ว่างเปล่า ดวงตาของเขากลายเป็นไร้ชีวิตชีวาเมื่อเขาเห็นว่ากล่องหยกธูปศักดิ์สิทธิ์แต่ละกล่องว่างเปล่า เขาไม่ได้พูดมาสักพัก และดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียจิตวิญญาณของเขาไป…

เวลาผ่านไปนานมากก่อนที่เขาจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด หลังจากนั้นเขาก็ล้มลงขณะมองขึ้นไป “โอ้พระเจ้า… คุณอยากให้ตระกูล Ou ของฉันพินาศหรือไม่!”

ร่างกายของอูเฉิงหวู่สั่นเทา วิสัยทัศน์ของเขาพร่ามัวในขณะที่เขาพึมพำ “สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร…?”

ตระกูล Ou ได้รวบรวมสมบัติการต่อสู้เหล่านี้เพื่ออัพเกรดการฝึกฝนของพวกเขาในอดีต แต่สมบัติเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์เหลืออยู่มากนักหลังจากผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงถูกผนึกไว้ และพวกเขามีโอกาสเพิ่มมากขึ้นในการก่ออาชญากรรมทุกประเภทในขณะที่กลุ่มยังคงขยายตัวต่อไป ดังนั้น พวกเขาจึงปล้นสมบัติการต่อสู้เหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ

Ou Cheng Wu เคยคิดว่าสมบัติเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการฝึกฝนได้อย่างช้าๆ เนื่องจากพวกเขารวบรวมได้มากมาย แต่ต่อมาตระกูลได้มาถึงระดับใหม่ในศิลปะพิษ และสมบัติการต่อสู้เหล่านี้สามารถใช้ร่วมกับพิษได้ นอกจากนี้ พิษที่สร้างขึ้นจากสมบัติเหล่านี้ยังมีระดับสูงสุดอีกด้วย ดังนั้นสมบัติเหล่านี้จึงได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังตั้งแต่นั้นมา

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าสมบัติการต่อสู้เหล่านี้จะถูกขโมยไปในช่วงเวลาวิกฤติที่กลุ่ม Ou Clan ต้องการสิ่งเหล่านี้มากที่สุด!

“สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่นี่…คือฝุ่นเยอะมาก ยาอมแห้งบางชนิดก็ถูกทิ้งไว้ที่นี่เช่นกัน” อู๋ดูเซียวพูดด้วยความงุนงง

ทันใดนั้น แสงลึกลับก็ฉายแวววาบในดวงตาของโอวเฉิงหวู่ในขณะที่เขาพูดขึ้นมาว่า “นี่อาจเป็นการกระทำของราชาแห่งนรกชูหรือเปล่า?”

Ou Du Xiao ส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ ฉันอยู่กับราชาแห่งนรกชูตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ และฉันก็อยู่กับเขาตลอดเวลา! ดังนั้นเขาไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้น! คงจะมีใครอีกคน”

“หา!” โอวเฉิงหวู่คำรามออกมาอย่างรุนแรง

น้ำอมฤตทั้งหมดก็หายไป นอกจากนี้ สิ่งของล้ำค่ายังถูกราชาแห่งนรกชูนำไปด้วย ด้วยเหตุนี้ ตระกูลใหญ่อย่างตระกูล Ou จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากที่พวกเขาไม่มีอะไรจะส่งมอบหากพวกเขาต้องการมอบของขวัญให้กับใครสักคน!

–

~~สามสวรรค์ชั้นบน~~

ชูเฟยหลิงกลับมาที่ตระกูลชูแล้ว และนี่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่

ไม่มีใครคิดว่าชูเฟยหลิงจะค้นพบหยกหยางลึกลับได้เร็วขนาดนี้

หมอหยูตกใจมากเมื่อถือหยกหยางลึกลับ หนวดเคราสีขาวของเขาหันตรง และดวงตาของเขาเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้าของพวกเขา “แกนหยกหยางลึกลับเหรอ? คุณได้สมบัติชิ้นนี้มาจากไหน?”

“ฉันพบมันโดยบังเอิญ นั่นคือทั้งหมดที่ มันเป็นเพียงโชคล้วนๆ” ชูเฟยหลิงยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาไม่ต้องการเปิดเผยการมีอยู่ของ ‘น้องชายคนเล็ก’ ของเขา สิ่งแรกที่ Chu Fei Long จะทำ… ก็คือระบายความโกรธของเขาต่อ Chu Yang หากเขารู้เรื่องนี้

“โชคของคุณคงจะดีมาก” หมอหยูมองเขาด้วยสายตาอิจฉา “ชายชราคนนี้ค้นหามันมาเป็นเวลาร้อยปีแล้ว แต่ฉันไม่เคยเห็นรากขนของมันเลยด้วยซ้ำ”

ชูเฟยหลิงตอบว่า “หมอหยู ฉันได้รับสิ่งนี้แล้ว… ดังนั้น จะไม่มีปัญหาในการรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อฉันใช่ไหม?”

“จะไม่มีปัญหาอีกต่อไปอย่างแน่นอน!” หมอหยูตบหน้าอกของเขาแล้วพูดว่า “ตอนนี้เรามีแก่นของหยกหยางลึกลับแล้ว… ดังนั้น ฉันจะหยุดการฝึกฝนและขอทานถ้าฉันไม่สามารถปฏิบัติต่อเจ้าแห่งตระกูลชูได้อย่างเหมาะสม!”

ชูเฟยหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณมาก หมอหยู” เรารบกวนคุณมากแล้ว”

หมอยูหัวเราะเบา ๆ

“พี่ใหญ่ ฉันได้ยินมาว่าคุณกลับมาแล้ว! คุณพบหยกหยางลึกลับหรือไม่” ได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลอย่างลึกซึ้ง ชายวัยกลางคนเดินตามด้วยเสียง รูปร่างหน้าตาของเขาเป็นวีรบุรุษ ความสูงของเขาสูง เขาสวมเสื้อคลุมปัก ผมของเขาไม่ยุ่งจากมุมใดๆ ดวงตาของเขามีความหมาย วิสัยทัศน์ของเขาดูเหมือนจะเฉียบคมราวกับนกอินทรี แม้ว่าเขาจะมองใครสักคนด้วยสายตาที่อ่อนโยนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การแสดงออกในดวงตาของเขานั้นลึกราวกับมหาสมุทร นอกจากนี้อารมณ์ของเขายังพิเศษอีกด้วย พระองค์ทรงยืนด้วยท่าทีอันสงบดุจสายน้ำ และทรงสูงตระหง่านดุจภูเขา ทุกการกระทำและทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูเป็นธรรมชาติมาก แต่ยังเต็มไปด้วยสัญชาตญาณแห่งอำนาจตามธรรมชาติอีกด้วย

เป็นบุตรชายคนที่สองของตระกูล Chu – Chu Fei Long

“ฉันพบมันแล้ว อาการบาดเจ็บของพ่อควรได้รับการรักษาให้หายโดยไม่มีปัญหาใดๆ ในตอนนี้” ชูเฟยหลิงมองดูพี่ชายคนที่สองของเขาเองด้วยท่าทางที่ซับซ้อน และตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ

“นั่นเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ!” จิตวิญญาณของ Chu Fei Long ลุกขึ้นทันที จากนั้นเขาก็คว้ามือของชูเฟยหลิงและพูดด้วยความประหลาดใจ “พี่ใหญ่… คราวนี้คุณคงโชคดีมาก ฉันกับพี่สามไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา… อา โชคดีที่พี่ใหญ่กลับมาเร็วมาก พี่ชายคนที่สามจะโทษตัวเองต่อไปแม้ว่าฉันจะสนับสนุนเขาก็ตาม… บางทีฉันคงไม่สามารถยืนหยัดได้นาน”

เขาถอนหายใจขณะพูด “พี่สามมักจะคิดมากเกินไป เขาบอกว่ามันเป็นความผิดของเขาหลายครั้งจนทำให้ฉันปวดหัวจริงๆ”

ลูกแอปเปิ้ลของอดัมของชูเฟยหลิงขยับขณะที่เขากลืนน้ำลาย จากนั้นเขาตอบด้วยรอยยิ้มว่า “คุณสองคนดูแลพ่อในช่วงนี้เมื่อผมไม่อยู่ พี่ชายคนที่สอง ขอบคุณสำหรับปัญหา…”

ชูเฟยหลงเริ่มไม่พอใจ และเขาพูดอย่างจริงใจว่า “พี่ใหญ่ ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้? เราเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน เราเกิดจากแม่คนเดียวกัน! ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องดูแลพ่อของเรา ทำไมคุณถึงพูดว่า ‘ขอบคุณสำหรับปัญหา’? ท่านคงเหนื่อยมากเพราะต้องรีบเร่งพี่ นี่ทำให้ฉันกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณ คุณต้องให้ร่างกายของคุณได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมสักสองสามวันหลังจากที่คุณกลับมาแล้ว พี่ใหญ่เป็นกระดูกสันหลังของครอบครัวเราอย่างแท้จริง น้องชายของคุณไม่รู้ว่าเราจะทำอย่างไรถ้าคุณหมดแรงเพราะความเหนื่อยล้า”

เขาพูดคำเหล่านี้ด้วยความรักด้วยรอยยิ้มที่ชัดเจนและสดใส และเขาก็ดึงมือของพี่ชายอย่างจริงใจ เขามีสีหน้าจริงใจอย่างยิ่ง และเขาก็จ้องมองไปที่พี่ชายของเขาอย่างไม่เห็นแก่ตัว นอกจากนี้ขอบตาของเขายังค่อนข้างแดงอีกด้วย ดังนั้นเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน คือว่าถ้อยคำเหล่านี้ออกมาจากใจของเขาโดยตรง

ชูเฟยหลิงถอนหายใจเพราะเขารู้สึกสะเทือนอารมณ์อยู่ในใจ

เขานึกถึงช่วงเวลาที่จักรพรรดิเซเบอร์ทั้งเก้าแห่งตระกูลเย่ไล่ตามเขาเพื่อฆ่าเขา

[Second Brother, was it really you? I want to believe that the ‘you’ in front of me is the real you…]

หมอยูมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาในขณะที่เขาพูดว่า “พี่น้องของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดี ความรักแบบพี่น้องเช่นนี้หาได้ยากมากในครอบครัวอื่น”

ชูเฟยหลงหัวเราะออกมาดัง ๆ และตอบอย่างจริงใจว่า “หมอหยูพูดยกย่องฉันมากจนฉันหน้าแดง เราเป็นลูกแม่เดียวกัน แล้วเราจะเป็นพี่น้องแบบไหนถ้าความสัมพันธ์ของเราไม่ดี? พี่ชายคอยดูแลเราสองคนพี่น้องมาตั้งแต่เด็ก พระองค์ทรงรับทุกสิ่งไว้กับพระองค์เองเพื่อเรา เขาแบกรับภาระความรับผิดชอบอยู่เสมอ… จะมีใครในโลกนี้ที่สมควรได้รับความเคารพหากพี่ชายเช่นนี้ไม่สมควรได้รับความเคารพหรือไม่?”

หมอยูเริ่มพอใจในขณะที่เขาพยักหน้า จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ฉันจะมอบสิ่งนี้ให้กับตระกูล Chu เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขา พี่น้องไม่เจอกันนานเลย ดังนั้นคุณควรใช้เวลาอยู่คนเดียวเพื่อพูดคุยกัน” เขาเดินออกไปทันทีที่พูดจบ และเขาก็ถอนหายใจขณะเดินจากไป

[Indeed. There are so many clans in the entire Nine Heavens. But, brothers like these with such kind of deep brotherly love… really can’t be found in many of them.]